ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ยืนยันความพร้อมประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โมโตจีพีรายการ “พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019” หลังประชุมร่วมภาครัฐ-เอกชน มั่นใจสร้างความประทับใจให้แฟนมอเตอร์สปอร์ตทั้งไทยและจากทั่วโลก

วันที่ 5 ส.ค. ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 25 การกีฬาแห่งประเทศไทย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดการประชุมการเตรียมความพร้อมการจัดการแข่งขันโมโตจีพีรายการ “พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคม 2562 ณ สนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อเป็นการหารือและทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วนที่เข้าร่วมจัดงาน 

การประชุมเป็นการเดินหน้าหารือ เตรียมการรองรับแฟนมอเตอร์สปอร์ตที่หลั่งไหลมาร่วมงานจากทุกมุมโลกอีกครั้ง โดยมีตัวแทนภาครัฐและเอกชน การกีฬาแห่งประเทศไทย ผู้สนับสนุน อาทิ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน), เครื่องดื่มตราช้าง, รถจักรยานยนต์ฮอนด้า-ยามาฮ่า, ธนาคารไทยพาณิชย์ และผู้ประกอบการรายย่อยอีกมากมาย ตบเท้าเข้าร่วมประชุมกว่า 150 คน เพื่อเตรียมความพร้อมดูแลแฟนมอเตอร์สปอร์ตจากทั่วโลกให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม 

ประเด็นสำคัญนอกเหนือจากการจัดการแข่งขันแล้ว ยังเน้นหนักไปที่กิจกรรมต่างๆ ไว้รองรับมากมาย เพื่อต้อนรับแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตชาวไทยและจากทั่วโลก ที่เดินทางมาเชียร์นักแข่งในดวงใจถึงขอบสนามให้ได้รับความสนุกและความประทับใจตลอดการแข่งขัน 

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การจัดแข่งขันในปีที่ผ่านมานั้น ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากกับประเทศไทยทั้งในด้านการจัดการแข่งขันและการท่องเที่ยว สร้าง Talk of the world ไปทั่วโลก และปิดฉากอย่างน่าประทับใจ เมื่อโมโต จีพี ของไทยได้รับการโหวตเป็นโมโตจีพีที่ดีที่สุดประจำปี Best Grand Prix of The Year 2018

“จากการที่โมโตจีพี ครั้งแรกของไทยเมื่อปีที่แล้ว ได้สร้างประวัติศาสตร์หลายๆด้านเอาไว้ด้วยกัน เป็นกีฬาระดับเวิลด์คลาสที่สามารถดึงดูดผู้คนเข้ามาประเทศไทยอย่างมากมาย ทำให้การจัดงานในปีนี้ เป็นโจทย์ที่ยากขึ้น ทุกภาคส่วนต้องทำงานหนักขึ้น ร่วมกันปรับปรุงและสร้างมาตรฐานให้กับ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการจัดการอย่างยอดเยี่ยม ตลอดจนบรรยากาศและสิ่งอำนวยความสะดวกภายใน รวมทั้งกิจกรรมที่จะดูแลแฟนมอเตอร์สปอร์ต โดยในส่วนของการกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมสนับสนุนและผลักดันอย่างเต็มกำลัง และเชื่อว่า ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากการจัดการแข่งขันอย่างมหาศาล”