“ฮอนด้า” ค่ายผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ยอมรับว่า “ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้” เพื่อรักษาเส้นทางของพวกเขาใน “ฟอร์มูล่าวัน” โดย มาซาชิ ยามาโมโตะ หัวหน้าโครงการเผยว่าขึ้นอยู่กับการหารือใน บริษัท สำหรับอนาคตในปี 2020

ค่ายผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นหยุดเส้นทางที่อึดอัด ด้วยการคว้าแชมป์ครั้งแรกของปีนี้ได้ที่ ออสเตรีย จากผลงานของ แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น นักขับดัตช์ของ เรดบูลล์ เรซซิ่ง กับความร่วมมือครั้งใหม่ของพวกเขาภายใต้การใช้เครื่องยนต์ฮอนด้า

เวอร์สแท็พเพ่น คว้าแชมป์ได้อีกครั้งในการแข่งขัน เยอรมัน กรังด์ปรีซ์ พร้อมกับคว้าโพลครั้งแรกในชีวิตของเขาเองที่ ฮังการี ด้วย ขณะที่ เรดบูลล์ ก็ขยับขึ้นมาเป็นคู่ต่อสู้ของ เมอร์เซเดส ได้อย่างสูสีก่อนเข้าสู่ช่วงซัมเมอร์เบรก

แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น คว้าชัยชนะ 2 ครั้งแล้ว กับเครื่องยนต์ ฮอนด้า ในปี 2019

ฮอนด้า อยู่ระหว่างการชั่งน้ำหนักว่าพวกเขาจะลุยต่อใน ศึก ฟอร์มูล่าวัน หรือไม่ ในฤดูกาลถัดไป และชัยชนะที่ ออสเตรีย ของพวกเขาก็มาได้ถูกที่ถูกเวลา ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการประชุมของบอร์ดบริหาร

มาซาชิ ยามาโมโตะ กรรมการผู้อำนวยการด้าน ฟอร์มูล่าวัน ของ ฮอนด้า เปิดเผยผ่าน Motorsport.com ว่า นั่นคือสัญญาณสำคัญในการคว้าแชมป์ครั้งแรกของ ฮอนด้า นับตั้งแต่คัมแบ็กสู่ฟอร์มูล่าวันในปี 2015 “บางทีผมยังแอบคิดว่ามันอาจเป็นที่ ซูซูกะ ที่เดียวที่เราจะชนะได้”

ยามาโมโตะ เสริมว่า ความสำเร็จของ ฮอนด้า ในฤดูกาลนี้ “สอดคล้องกับแผนของผม นั่นคือสิ่งที่เราหวัง”

“เราอาจทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว” เขากล่าว

“สิ่งที่เราต้องการทำให้ได้คือ การสร้างผลงานให้ได้กว่าที่ เรดบูลล์ ทำได้ในปีที่ผ่านมา”

“เราไม่ได้บอกว่าต้องการชนะ 5 ครั้ง แต่เราต้องการมีแต้มมากกว่าที่ เรดบูลล์ ทำได้ในปี 2018 และดูเหมือนว่าอาจเป็นไปได้ที่เราจะชนะได้ถึง 5 สนาม”

ฮอนด้า ต้องการชัยชนะอีกมากกว่า 3 ครั้ง และโพเดี้ยมมากกว่า 9 ครั้ง จึงจะสามารถเอาชนะผลงานของ เรดบูลล์ ที่ทำได้ในปีที่ผ่านมา ทว่าพวกเขาก็ยังคงมีโอกาสที่จะทำลายสถิติเดิมของทีมได้ แม้ว่าศักยภาพของนักขับจะด้อยกว่าปีที่ผ่านมาก็ตาม

ปิแอร์ แกสลีย์ ประสบปัญหาในการปรับตัวจนไม่สามารถรีดฟอร์มเก่งกับทีมได้ ส่งผลให้ เรดบูลล์ ตัดสินใจดร็อปเขาและเปลี่ยนตัวนักบิดมาเป็น อเล็กซ์ อัลบอน จากประเทศไทยที่ถูกดันขึ้นสู่ทีมใหญ่ หลังสร้างผลงานโดดเด่นใน โทโร รอสโซ

อเล็กซ์ อัลบอน หนึ่งในตัวแปรสำคัญที่จะช่วยให้ ฮอนด้า ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในอนาคตกับศึกรถสูตรหนึ่ง

ทว่าจนถึงปัจจุบัน เวอร์สแท็พเพ่น ก็สามารถสร้างความประทับใจให้กับทีมอย่างมาก เพราะเขาช่วยให้ เรดบูลล์ เก็บคะแนนได้มากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งในตอนนั้นใช้เครื่องยนต์ เรโนลต์

เวอร์สแท็พเพ่น เก็บไปแล้ว 181 คะแนน กับเครื่องยนต์ฮอนด้า สูงกว่าปีที่ผ่านมาในช่วงเดียวกันซึ่งเขาทำได้เพียง 105 คะแนนเท่านั้น โดยแม้แต่ แดเนียล ริคคิอาร์โด นักขับออสซี่ยังทำได้เพียง 118 คะแนน ก่อนเข้าสู่ซัมเมอร์เบรกในปี 2018

ยามาโมโตะ ก้าวเข้ามามีบทบาทในศึกฟอร์มูล่าวันใน 2019 หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายมอเตอร์สปอร์ตของ ฮอนด้า เพื่อให้ความสำคัญกับโครงการนี้ ให้เป็นนโยบายหลักในความร่วมือของ ฮอนด้า กับ เรดบูลล์ เรซซิ่ง

ความเชื่อมั่นของ ฮอนด้า ที่มีต่อเขานั้นเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่พวกเขาคว้าแชมป์ได้ 2 สนาม และได้รับการตอบรับที่แข็งแกร่งจากสาธารณชน นอกจากจากการตอบรับที่ดีในองค์กร

“ผมคิดว่ามันจะเป็นกำลังใจให้เราเดินหน้าต่อ” ยามาโมโตะ กล่าว

“ฮอนด้า และผู้คนในสังคมญี่ปุุ่นต่างก็มีความสุขกับชัยชนะของ ฮอนด้า ผมคิดว่ามันเป็นทิศทางที่ดีมากสำหรับเรา”

“เป็นเรื่องยากมากที่จะอธิบายให้ชัดเจนในตอนนี้ มันเป็นความจริงที่เรากำลังหารือเรื่องนี้กับ บริษัท แต่เราไม่สามารถบิดได้ว่า เมื่อไหร่เราจึงจะสามารถประกาศอนาคตของ ฮอนด้า กับ ฟอร์มูล่าวัน ได้”