มาซาอากิ บันโดห์ บอสใหญ่ของศึกซูเปอร์คาร์จากญี่ปุ่น “ซูเปอร์จีที” เผยว่าอนาคตกับการแข่งขันที่ สนามข้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ สำหรับปี 2020 ยังคงไม่มีความชัดเจน หลังหมดสัญาในปีที่ผ่านมา โดยมีเหตุผลด้านงบประมาณการขนส่งและค่าลิขสิทธิ์เป็นประเด็นหลัก

สัญญาของ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ สังเวียนความเร็วระดับเวิลด์คลาสของไทยกับ ซูเปอร์จีที หมดลงหลังจบการแข่งขันในปี 2019 เมื่อเดือนมิถุนายที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในประเด็นที่แฟนมอเตอร์สปอร์ตให้ความสนใจมากที่สุด คือการต่อสัญญาจะมีขึ้นหรือไม่?

แม้ล่าสุด จีทีเอ เจ้าของลิขสิทธิ์ของ ซูเปอร์จีที จะประกาศตารางแข่งขันอย่างไม่เป็นทาวการสำหรับปี 2020 ออกมาแล้ว โดย สนามช้างฯ​ถูกบรรจะเป็นสนามที่ 4 ของปี ดวลความเร็วในวันที่ 4-5 กรกฎาคม ขณะเดียวกันยังมี สนามเซปังฯ ของประเทศมาเลเซีย ถูกบรรจุเข้ามาเป็นหนึ่งในสนามใหม่ด้วยสัญญา 3 ปี ซึ่งจะแข่งขันต่อจากประเทศไทย

โดยการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โมโตจีพี นั้น สร้างความตึงเครียดในด้านงบประมาณให้กับสนามแข่งในบุรีรัมย์ และยังไม่มีความชัดเจนในการจัดสรรเม็ดเงินสำหรับการต่อสัญญา ซูเปอร์จีที ในปี 2020 ซึ่งนอกเหนือจากค่าลิขสิทธิ์แล้ว ยังต้องมีค่าดำเนินการด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ การขนส่งและระบบโลจิสติก ในการเคลื่อนย้ายรถแข่งจากญี่ปุ่น

อย่างไรก็ดี มร.มาซาอากิ บันโดะห์ ประธานของ จีทีเอ ได้เปิดเผยในการแข่งขันที่ ออโตโปลิส เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า “ผมกำลังพูดคุยกับ สนามช้างฯ ถึงการแข่งขันในปีหน้า ซึ่งมันมีเรื่องค่าใช้จ่ายในการขนส่งและค่าลิขสิทธิ์มาเกี่ยวข้อง”

“เราพยายามลดต้นทุน และพิจารณาเพื่อประเมินสำหรับ ซัพพลายเออร์แต่ละราย ว่าจะสามารถลดต้นทุนในด้านโลจิสติกได้อย่างไร ซึ่งฝ่ายไทยนั้นพยายามจะลดภาระในส่วนนี้”

ตารางแข่งขันไม่เป็นทางการ 2020 Super GT :

Date Venue
April 11-12  Okayama International Circuit
May 3-4  Fuji Speedway
May 30-31  Suzuka Circuit
July 4-5  Chang International Circuit (Buriram)
TBA  Sepang International Circuit
September 12-13  Sportsland SUGO
October 24-25  Autopolis
November 7-8  Twin Ring Motegi