มาร์ค มาร์เกซ นักบิดต่างดาวจากเรปโซล ฮอนด้า เผยว่าเหตุการณ์ดราม่ากับ วาเลนติโน รอสซี่ จอมเก๋าอิตาเลียนจาก มอนสเตอร์ ยามาฮ่า ทำให้มีแรงฮึดที่จะคว้าแชมป์ที่ มิซาโน แม้จะไม่จำเป็นต้องเสี่ยงขนาดนั้นก็ตาม

มาร์เกซ และ รอสซี่ ปะทะกันเล็กน้อยในการควอลิฟายรอบ Q2 แต่ก็ไม่มีอะไรรุนแรง ทว่าด้วยเจตนาของทั้งคู่ จึงทำให้ดูเหมือนเป็นการทำลายจังหวะในหารทำเวลาซึ่งกันและกัน ส่งผลให้รอบดังกล่าวสูญเปล่า

แชมป์โลกจาก ฮอนด้า เผยว่า เขาค่อนข้างสับสนว่าทำไม รอสซี่ ถึงทำแบบนั้น ขณะที่ รอสซี่ เองก็ให้ความเห็นว่า เป็น มาร์เกซ เองที่จงใจทำลายรอบของเขา

โดยในการแข่งขันรอบไฟนอล มาร์เกซ เป็นฝ่ายไล่ตาม ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ตลอดทั้งเรซ ก่อนจะสามารถแซงขึ้นมาคว้าชัยชนะได้สำเร็จในรอบสุดท้าย พร้อมกับคว้าแชมป์ที่ 7 ให้กับตนเองในฤดูกาลนนี้ ขณะที่ อันเดรีย โดวิซิโอโซ จบอันดับ 6 ส่วนคู่แข่งอีกคนอย่าง อเล็กซ์ รินส์ นั้นไม่จบการแข่งขัน

วาเลนติโน รอสซี่ จบการแข่งขันในอันดับ 4

ทว่า มาร์เกซ เผยว่า แรงจูงใจจากการมา “ดราม่า” ในรอบควอลิฟายกับ รอสซี่ ทำให้เขามีแรงกระตุ้นอย่างมากที่จะคว้าชัยชนะในโฮมเรซของนักบิดอิตาเลียน

“ผมรู้ดีว่ามันไม่จำเป็นที่จะต้องชนะก็ได้ เพราะ ผมเห็น รินส์ ล้มไป และ โดวิ ก็ตามอยู่ไกลมาก” มาร์เกซ เผยใน พาร์คเฟอร์เม “แต่ด้วยความสัตย์จริง เหตุการณ์เมื่อวานในรอบควอลิฟาย มันทำให้ผมมีแรงกระตุ้น และมีแรงผลักดันมากกว่าเดิมในเรซนี้”

“บางคนได้ปลุกผมให้ตื่น มันคือปฏิกิริยาตอบกลับ และนั่นคือหนทางที่ดีที่สุดในการพูดออกไปกับการแข่งขันที่สนามแห่งนี้”

มาร์เกซ กล่าวว่า “ผมพยายามตามหลัง กวาร์ตาราโร จากนั้นก็บอกตัวเองว่า จะพยายามแซงดูไหม? แต่ก็เตือนตัวเองอีกครั้งว่า โอเค… ผมจะแซงในรอบสุดท้าย”

“ผมคงนอนไม่หลับ ถ้าไม่คิดจะแซงเขา”

“ผมรู้ดีว่า ฟาบิโอ เร็วมากๆ ในเซ็คเตอร์ 3 ดังนั้นผมจึงพยายามแซงเขาก่อนโค้ง 3 และจะต้องปิดไลน์ในโค้งนั้นให้ได้”

“ผมพยายามจะทำในสิ่งที่ชาญฉลาดที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะที่นี่ ที่ อิตาลี แต่นี่คือสถานการณ์ที่ดีสุดๆ เมื่อเรามีคะแนนนำเหนือคู่แข่งไปถึง 93 แต้ม”