ยอดทีมแข่งไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ “เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” เดินหน้าป้องกันแชมป์ในศึกดวลอึดสองล้อ รายการ เจพี 250 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019 ล่าสุด “บิว” วริทธิ์ ทองนพคุณ และ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ คว้ากริดสตาร์ทที่ 19 ขณะทีมมั่นใจความพร้อมเต็มร้อยของนักแข่ง รถ และทีมซัพพอร์ต สามารถขยับลุ้นแถวหน้ารักษาแชมป์ได้ในสุดสัปดาห์นี้ ที่ซูซูกะ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น

การแข่งขันในรายการบิดทรหด JP250 4Hrs Endurance Race 2019 (เจพี 250 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019) และรายการดวลความเร็ว 10 รอบสนาม “Suzuka Sunday Road Race” (ซูซูกะ ซันเดย์ โร้ด เรซ 2019) มีคิวดวลความเร็วระหว่างวันที่ 8-9 มิถุนายนนี้ ที่ซูซูกะ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดในช่วงสายของวันเสาร์ที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันรอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ท

โดยในปีนี้ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้นำวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย ได้ประกาศเดินหน้ายกระดับแผนโร้ดแม็ป Race To The Dream โปรเจกต์ปั้นนักบิดไทยสู่การแข่งขันในสนามระดับโลก โมโตจีพี ภายในปี 2025 ด้วยการส่งนักบิดดาวรุ่งในสังกัด เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ อย่าง “บิว” วริทธิ์ ทองนพคุณ และ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ ลงป้องกันแชมป์และเพิ่มประสบการณ์ ความพร้อมทีม ความแข็งแกร่งของนักแข่ง ในศึกบิดทรหด เจพี250 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019 ภายใต้รถแข่ง ฮอนด้า CBR250RR หมายเลข 149 โดยมี “การ์ฟิว” วัชรินทร์ ทับทิมอ่อน จ่าฝูงในศึก ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ 2019 รับหน้าที่เป็นนักบิดสำรอง

ผลการควอลิฟายปรากฏว่า 2 นักบิดไทยอย่าง “บิว” วริทธิ์ และ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ช่วยกันพารถแข่ง ฮอนด้า CBR250RR ลงจับเวลาได้อย่างโดดเด่น กดเวลามาเป็นอันดับ 4 ด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 33.751 วินาที มีลุ้นป้องกันแชมป์อย่างเต็มตัว

อย่างไรก็ดี เนื่องจากระหว่างการควอลิฟายมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายจุดของสนาม ส่งผลให้นักบิดไทยปรับกริดสตาร์ทลงถึง 15 อันดับ จากการแซงในช่วงธงเหลืองโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ต้องถอยลงไปออกสตาร์ทในกริดที่ 19

สำหรับการป้องกันแชมป์ที่ซูซูกะ กับรายการเอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง ซึ่งเวลาต่อรอบของนักบิดไทยที่ทำได้ในการควอลิฟายนั้นมาเป็นอันดับ 4 แต่ทว่าจากเหตุการณ์ในแทร็กหลายๆ จุดทำให้โดนปรับอันดับลดลงไปออกสตาร์ทจากกริดที่ 19 ซึ่งอาจสร้างความลำบากอยู่บ้างในการแข่งขัน

อย่างไรก็ดี จากเวลาต่อรอบที่นักแข่งไทยทำได้ เชื่อว่าในการแข่งขัน 4 ชั่วโมงเต็ม ทีมงานของ เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ที่มีคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์จะขยับขึ้นมาสู่กลุ่มหน้าได้ โดยเป้าหมายของทีมคือการป้องกันแชมป์ให้ได้ และมั่นใจในตัวนักบิดที่จะทำผลงานอย่างเต็มที่

สำหรับศึกดวลความเร็วสุดทรหด เอ็นดูรานซ์ JP250 4Hours เป็นการแข่งขันที่แตกต่างจากรายการทั่วไปที่เน้นขับขี่เข้าเส้นชัยให้เร็วที่สุดเพื่อคว้าชัยชนะ แต่กับรายการนี้ ทีมแข่งต้องทุ่มเทพลังกายและพลังใจ หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวในการลงแข่งขันแบบมาราธอนตลอด 4 ชั่วโมง ไม่มีพักเบรก เป็นการแข่งขันกันที่ความพร้อมของทีมแข่ง ความแข็งแกร่งของนักบิด สมรรถนะของรถแข่งที่พร้อม 100  เปอร์เซ็นต์ เพื่อร่วมแรงร่วมใจกันพาทีมไปถึงโพเดี้ยมแชมป์ให้ได้ โดย 1 ทีมที่ลงแข่งขันประกอบด้วย นักแข่งจำนวน 2 คน นักแข่งสำรอง 1 คน, รถแข่งที่ดีที่สุด 1 คัน และช่างเครื่องยนต์ประจำทีม เมื่อสัญญาณออกสตาร์ทเริ่มต้น นักบิดทุกทีมจะวิ่งจากพิทเลนไปที่รถของตัวเอง ก่อนกระโดดขึ้นรถแล้วออกสตาร์ททันที ซึ่งแข่งขันกันภายในเวลา 4 ชั่วโมง ทีมไหนขับขี่ได้จำนวนรอบเยอะที่สุดจะเป็นผู้ชนะ

ด้านผลการควอลิฟายใน รายการ ซูซูกะ ซันเดย์ โร้ด เรซ 2019 ซึกดวลความเร็ว 10 รอบสนาม ซึ่ง เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ นั้นส่ง 2 ดาวรุ่งไปหาประสบการณ์ในระดับนานาชาติ อย่าง “การ์ฟิว” วัชรินทร์ ทับทิมอ่อน และดาวรุ่งจากโครงการ เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี อย่าง “พีไนท์” กันตพัฒน์ แยบการไถ ลงบิดเป็นครั้งแรก

ผลการควอลิฟายปรากฏว่า วัชรรินทร์ ภายใต้รถแข่ง โปรโตไทป์ NSF250R หมายเลข 10 กดเวลาต่อรอบ 2 นาที 28.015 วินาที ได้ออกตัวจากกริดที่ 21 ส่วนดาวรุ่งอย่าง กันตพัฒน์ ได้ออกตัวจากกริดที่ 26 ด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 32.208 วินาที

ทั้งนี้ แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยสามารถส่งแรงใจเชียร์นักบิดดาวรุ่งในสังกัด เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ในศึกการแข่งขัน JP250 4Hrs Endurance Race 2019 และ Suzuka Sunday Road Race 2019 ผ่านการถ่ายทอดสดพร้อมรับฟังบรรยายเสียงภาษาไทย ได้ทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า (Honda Motorcycle Thailand) หรือที่ www.facebook.com/hondamotorcyclethailand ในอาทิตย์ที่ 9 มิ.ย. แข่งขันรายการ JP250 ตั้งแต่เวลา 05.40-11:00 น. ต่อด้วยรายการ Suzuka Sunday Road Race 2019 รอบชิงชนะเลิศรุ่น J-GP3 เริ่มเวลา 14.20-15:30น. ตามเวลาประเทศไทย