Advertisement

แลนโด้ นอร์ริส นักขับอังกฤษจาก แม็คลาเรน พลิกสถานการณ์คว้าชัยในศึก ฟอร์มูล่าวัน สปรินต์ รายการ ไมอามี กรังด์ปรีซ์ หลังเหตุการณ์โกลาหลตลอดทั้งเรซ ขณะที่ อเล็กซานเดอร์ อัลบอน นักขับไทยจาก วิลเลียมส์ ฟอร์มยอดเยี่ยมเข้าป้ายอันดับ 4 คว้า 5 แต้ม จากคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

ศึก ฟอร์มูล่าวัน 2025 สนาม 6 รายการ ไมอามี กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วรอบ “สปรินต์เรซ” เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยนับเป็นหนึ่งในเรซที่เต็มไปด้วยเหตุการณ์โกลาหลจากฝนที่กระหน่ำลงมาก่อนเริ่มต้นการแข่งขัน

โพลในเรซนี้เป็นของนักขับรุกกี้อย่าง อันเดรีย คิมี อันโตเนลลี จาก เมอร์เซเดส ขนาบข้างด้วย ออสการ์ ปิอัสตรี้ จ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพจาก แม็คลาเรน ส่วนแถวที่ 2 มี แลนโด นอร์ริส ที่ต้องออกตัวข้างกันกับ มักซ์ เวอร์สแท็พเพ่น

ยังไม่ทันเริ่มเกม ชาร์ลส์ เลอแคลร์ ก็ต้องออกจากการแข่งขันไปก่อน หลังพลาดท่าเหินนำไปฟาดกำแพงจนรถแข่งได้รับความเสียหาย

โดยการแข่งขันดวลกันทังสิ้น 18 รอบสนาม โดยนักขับทุกคนออกตัวด้วยยาง “อินเตอร์มีเดียต” เพียงออกตัว ปิอัสตรี้ ก็ขยับขึ้นมาเป็นผู้นำได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ อันโตเนลลี ที่พลาดท่าในโค้งแรก รูดลงไปถึงอันดับ 4

จากนั้นเกมทำท่าว่าจะไม่มีอะไรพลิกผัน ทว่าแทร็กกลับเริ่มแห้ง และ ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลก 7 สมัยจาก เฟอร์รารี่ ประเดิมเข้าพิตออกมากับยางสลิค (ซอฟท์) เป็นคนแรก หลังจากนั้นก็มีหลายคนตามเข้าไป รวมถึง อเล็กซานเดอร์ อัลบอน นักขับไทยจาก วิลเลียมส์ ด้วยเช่นกัน โดยออกมาจากพิตด้วยยางมีเดียม

ขณะที่ในพิตมีเหตุดราม่าของ เวอร์สแท็พเพ่น ที่ถูกปล่อยออกจากพิตบ็อกซ์ออกมาปะทะกับ อันโตเนลลี จนวนซ้ายด้านหน้าเสียหาย ก่อนที่แชมป์โลกจาก เรดบูล จะโดนลงโทษปรับ 10 วินาที จาก Unsafe Release

ส่วนในแทร็กก็เกิดเหตุการณ์หลายอย่าง คาร์ลอส ซายน์ซ เข้าแคบเกินไปที่ชิเคน ล้อหลังกระแทกหนอกแบร์ริเออร์ได้รับความเสียหาย จนต้องนำรถเข้าพิต

แต่เหตุการณ์ที่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนสำคัญของเรซจริงๆ คือ การชนของ เฟร์นานโด อลอนโซ จอมเก๋าวัย 43 ปี จาก แอสตัน มาร์ตัน ที่โดนสะกิดท้ายโดย เลียม ลอว์สัน นำมาซึ่งเซฟตี้คาร์ในรอบที่ 15 ขณะที่ นอร์ริส ขยับขึ้นเป็นจ่าฝูงก่อนหน้านั้นเพียงครู่เดียว และเกมก็จบด้วยการขับตามเซฟตี้คาร์เข้าเส้นชัย

โดยผลการแข่งขันปรากฏว่าชัยชนะตกเป็นของ นอร์ริส ตามด้วย ปิอัสตรี้ ทีมเมทในอันดับ 2 ส่วน แฮมิลตัน ทะยานขึ้นมาคว้าโพเดี้ยมในอันดับ 3

ด้าน อัลบอน ไต่ขึ้นมาเข้าเส้นชัยในอันดับ 4 เก็บ 5 แต้มจากเรซนี้ไปครอง ขณะที่ เวอร์สแท็พเพ่น โดนปรับ 10 วินาที ร่วงลงจบจบการแข่งขันในอันดับ 17

ผลการแข่งขัน

P.No.DriversTeamsLapsTimesPoints
14Lando NorrisMcLaren Mercedes1836:37.6478
281Oscar PiastriMcLaren Mercedes18+0.672s7
344Lewis HamiltonFerrari18+1.073s6
423Alexander AlbonWilliams Mercedes18+2.522s5
563George RussellMercedes18+3.127s4
618Lance StrollAston Martin Aramco Mercedes18+3.412s3
730Liam LawsonRacing Bulls Honda RBPT18+4.024s2
887Oliver BearmanHaas Ferrari18+4.218s1
922Yuki TsunodaRed Bull Racing Honda RBPT18+5.153s0
1012Kimi AntonelliMercedes18+5.635s0
1110Pierre GaslyAlpine Renault18+5.973s0
1227Nico HulkenbergKick Sauber Ferrari18+6.153s0
136Isack HadjarRacing Bulls Honda RBPT18+7.502s0
1431Esteban OconHaas Ferrari18+8.998s0
155Gabriel BortoletoKick Sauber Ferrari18+9.675s0
167Jack DoohanAlpine Renault18+9.909s0
171Max VerstappenRed Bull Racing Honda RBPT18+12.059s0
NC14Fernando AlonsoAston Martin Aramco Mercedes13DNF0
NC55Carlos SainzWilliams Mercedes12DNF0
NC16Charles LeclercFerrari0DNS0
* Provisional results.