Advertisement

นับเป็นข่าวใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตไทย เมื่อล่าสุด นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยอย่างเป็นทางการในช่วงเที่ยงวันอังคารที่ 17 มิ.ย.

โดยระบุว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ลงมติเห็นชอบนโยบายการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ฟอร์มูล่าวัน ของ “ไทย” แล้ว ซึ่งวางงบประมาณไว้รวม 40,000 ล้านบาท ตลอดระยะสัญญา 5 ปี โดยจะเริ่มต้นจัดการแข่งขันครั้งแรกในปี 2028 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า

การเจรจาของ รัฐบาลไทย กับ ฟอร์มูล่าวัน เติบโตเข้าใกล้ความเป็นจริงทุกขณะ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือน คณะทำงานของ ฟอร์มูล่าวัน กรุ๊ป นำโดย สเตฟาโน โดเมนิคาลี CEO ได้เดินทางมาสำรวจพื้นที่สำหรับก่อสร้างสนามแบบ “สตรีทเซอร์กิต” ใจกลางกลุมเทพมหานคร

แม้จะไม่มีการเผนพร่ภาพการสำรวจพื้นที่จริง แต่ก็ไม่ได้มีการปิดเป็นความลับแต่อย่างใดสำหรับพื้นที่ดังกล่าว

จากข้อมูลเบื้องต้นการแข่งขัน ฟอร์มูล่าวัน ในไทยจะใช้พื้นที่ย่านจตุจักร โดยยึดพื้นที่โดยรอบ 3 สวนธารณะอย่าง สวนจตุจักร, สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ, และสวนวชิรเบญจทัศ ซึ่งกำหนดระยะทางไว้ราว 5.7 กิโลเมตต่อรอบ

เส้นทางดังกล่าวจะทอดผ่านถนนโดยรอบบริเวณนั้น (รวมถึง กำแพงเพชร, วิภาวดี เล็กน้อย) จะมีบางโซนวิ่งผ่านหน้าสถานีขนส่งหมอชิต 2 ซึ่งถูกคาดการณ์ว่าจะใช้เป็น “อาคารพิต” รวมไปถึง สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ที่ถูกคาดการณ์จะว่าใช้เป็นศูนย์รวมการขนส่งมวลชนใหญ่ของ กรุงเทพมหานคร ในอนาคต

งบประมาณรวม 40,000 ล้าน ที่ตีกรอบไว้ 5 ปีนั้น จะเริ่มต้นผลักดันให้เกิดการแข่งขัน ฟอร์มูล่าวัน ในไทยซึ่งจะยึดรูปแบบ “สตรีทเรซ” ที่กำลังเป็นที่นิยมในการจัดรถสูตรหนึ่งทั่วโลก อาทิ สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์, ไมอามี กรังด์ปรีซ์ และล่าสุดคือ มาดริด ที่กำลังจะมีขึ้นในปีหน้า

งบประมาณดังกล่าวจะต้องแบ่งเป็นงบประมาณประจำปี นั่นหมายความว่าจะต้องชงเรื่องเข้า ครม. ทุกปี เพื่อให้ที่ประชุมพิจารณาเป็นรายปี

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ นายสรวงศ์ เป็นประธานคณะทำงานประมูลสิทธิ์ และมีองค์ประกอบเป็นปลัดกระทรวงท่องเที่ยวฯ และอธิบดีที่เกี่ยวข้องในกระทรวงคมนาคม และอื่น ๆ

อย่างไรก็ดี นี่เป็นเพียงขั้นตอนแรกๆ สำหรับการจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ฟอร์มูล่าวัน ในเมืองไทยเท่านั้น โดยจะต้องรอยืนยันการเซ็นสัญญากับเจ้าของลิขสิทธิ์ ฟอร์มูล่าวัน อย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะมีความคืบหน้าเร็วๆ นี้ และกำหนดไว้ 5 ปี คือ 2028-2032

หากนับเวลาจากต้องนี้จะเหลือเวลาราว 2 ปีเศษๆ ในการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ทั้งการก่อสร้างสนาม และขั้นตอนสำคัญต่างๆ ให้ผ่านมาตรฐานของ ฟอร์มูล่าวัน และ เอฟไอเอ ซึ่ง นายสรวงศ์ ยืนยันว่าระยะเวลาดังกล่าวจะเพียงพอต่อการทำงานแน่นอน เพราะขณะนี้ได้มีการออกแบบ (สนาม) ไว้คร่าว ๆ แล้ว และเบื้องต้นมีแบบออกมาบ้างแล้ว โดยได้ทำงานร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ของ สปน. รวมถึงบริษัทเอกชนต่างๆ เข้าร่วม

แม้นี่จะเป็นข่าวใหญ่ในวงการมอเตอร์สปอร์ต แต่อีกหนึ่งรายการแข่งขันระดับโลกในไทยอย่าง โมโตจีพี ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยังคงถูกตั้งคำถามว่าจะได้ไปต่อหรือไม่ โดยสัญญาปัจจุบันจะหมดลงในปี 2026 ซึ่งหากไม่มีการต่อสัญญา แฟนโมโตจีพีอาจได้เห็นการแข่งขันที่ บุรีรัมย์ ในปีหน้าเป็นครั้งสุดท้าย