โยฮันน์ ซาร์โก นักบิดฝรั่งเศสเผยรู้สึกโล่งอก โดยได้รับแรงสนับสนุนจากคอมเมนต์ในทางเดียวกันของ แดนี เปโดรซ่า จากการทดสอบรถแข่ง KTM RC16 หลังฟอร์มสะดุดมากว่า 6 เดือน ชี้ เคทีเอ็ม ต้นสังกัดมองแง่ลบว่าต้องการสร้างรถแข่งตามรอย “ยามาฮ่า”

นักบิดฝรั่งเศสพบว่าเป็นเรื่องยาก ที่จะค้นหาการยึดเกาะที่ดีกับรถแข่ง KTM ซึ่งกลับกลายเป็นทีมเมทอย่าง โปล เอสปารืกาโร นักบิดสแปนิชที่ได้รับความเชื่อถือและคำยกย่อง นับตั้งแต่เจ้าตัวย้ายมากจาก เทคทรี เมื่อครั้งใช้รถแข่ง ยามาฮ่า M1

ซาร์โก แสดงความไม่พอใจอย่างเปิดเผยกับรถแข่ง RC16 ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดอย่างมากภายในทีม ทำให้เขาถูกตักเตือนจาก ซีอีโอ ของ เคทีเอ็ม อย่าง สเตฟาน เพียเรอร์ ว่าที่นักบิดฝรั่งเศสยังมีปัญหากับการขี่รถแข่ง RC16 เป็นเพราะทัศนคติส่วนตัว

อย่างไรก็ เมื่ออดีตสตาร์นักบิดของ เรปโซล ฮอนด้า อย่าง แดนี เปโดรซ่า ได้เริ่มต้นทดสอบรถแข่ง RC16 หลังจากที่บาดเจ็บมากว่า 7 เดือน ก็ทำให้ ซาร์โก มีแรงสนับสนุนมากขึ้น จากคอมเมนต์ของนักบิดร่างเล็กชาวสแปนิช ซึ่งมีแนวทางเดียวกันกับของเขาเอง

แดนี เปโดรซ่า ถูกคาดว่าจะเป็นกุญแจสำคัญสู่จุดเปลี่ยนของ เคทีเอ็ม

“มันช่วยผมได้มาก สำหรับคอมเมนต์ของเขาที่ถูกนำมาวิเคราะห์มากขึ้นกว่าเดิม” ซาร์โก เผย ก่อนเข้าสู่การแข่งขันที่ แอสเซน

“เพราะก่อนหน้านี้ มันจะถูกสงสัยทันทีหากผมพูดอะไรบางสิ่ง พวกเขาจะมองว่าผมกำลังพยายามทำรถแข่งยามาฮ่า”

“ทว่าผมแค่ต้องการสร้างรถแข่งที่ดี และเมื่อ แดนี บอกในสิ่งเดียวกัน มันจึงเป็นเรื่องที่ดี เพราะเขาไม่เคยขี่ ยามาฮ่า”

“ดังนั้น มันหมายความว่าสิ่งที่ผมบอกพวกเขา (คอมเมนต์รถแข่ง) มันมีเป้าหมายเพื่อสร้างรถแข่งที่ดีกว่าเดิม ไม่ได้ต้องการสร้างรถแข่งยามาฮ่า”

“ผมยิ้มออกนะ เพราะมันเป็นเวลากว่า 6 เดือนที่เรามีปัญหา ตอนนี้ผมเริ่มมีความหวังว่าจะหายใจได้สะดวกขึ้นบ้าง”

โยฮันน์ ซาร์โก สีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลาในพิต เคทีเอ็ม

ซาร์โก ที่เพิ่งสร้างผลงานดีที่สุดของตนเองที่ เคทีเอ็ม หลังเริ่มต้นฤดูกาลอันยากลำบากด้วยอันดับ 10 ที่ บาร์เซโลน่า ก่อนจะลงทดสอบที่การเทสต์หลังการแข่งขัน และการทดสอบแบบส่วนตัวในสัปดาห์เดียวกัน

“หากเปรียบเทียบการทดสอบที่ เฆเรซ ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล มันคือแผนเดียวกัน รวมถึงในการแข่งขันฟูลเรซที่ บาร์เซโลน่า และการทดสอบในวันจันทร์ และวันพุธ ผมรู้สึกเหนื่อยมาก เพราะต้องต่อสู้อย่างหนักกับรถแข่ง” ซาร์โก เผย

“ที่ บาร์เซโลน่า ผมทำเวลาต่อรอบได้ดีขึ้น และสามารถเซฟพลังงานของตัวเองได้มากจนถึงช่วงท้ายเรซ จนจบการทดสอบในวันพุธ”

“ดังนั้น นี่คือสัญญาณที่ดีของเราในการหาความคงที่กับตัวรถได้แล้ว และสามารถรักษาพลังงานของตนเองได้ดี และผมคิดว่ามันคือกุญแจสำคัญที่จะพาเราไปสู่พื้นฐานที่ดีในการพัฒนารถแข่ง”