ไทยยามาฮ่า ประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ในแง่ของการทำการตลาดออนไลน์ นับเป็นรางวัลที่การันตีความสามารถระดับโลกถึง 3 รางวัล ด้านเว็บไซต์จากสถาบันชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกา วันนี้ Motorsportlives.com จะพาทุกท่านไปไขความลับถึงความสำเร็จนี้ด้วยกัน

  • Best Automobile Website จากงาน Web Award 2018
  • Award of Distinction ในหมวดของ Websites General Automotive
  • Award of Distinction ในหมวดของ Online Advertising – Microsite สำหรับแคมเปญรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า คิวบิกซ์ งาน COMMUNICATOR AWARDS 2018

WEB AWARD เป็นงานที่จัดโดย Web Marketing Association ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งก่อตั้งมาในปี 2540 เพื่อเป็นการกำหนดมาตราฐานของการทำการตลาดผ่านอินเตอร์เนต และการพัฒนาเว็บไซต์ระดับนานาชาติให้ดีขึ้น

รางวัลดังกล่าวจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 17 ซึ่งเป็นการจัดงานมอบรางวัลให้ผู้พัฒนาเว็บไซต์ที่ต่อเนื่องยาวนานที่สุด และงาน COMMUNICATOR AWARDS เป็นงานระดับนานาชาติซึ่งจัดขึ้นมากว่า 20 ปี โดยมีคณะกรรมการคัดเลือกผลงานจาก AIVA (Academy of Interactive & Visual Arts) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิชั้นนำจากหลายๆ ด้าน อาทิเช่น การสื่อสาร, การโฆษณา, ด้านงานครีเอทีฟและการตลาด ทั้งนี้สมาชิกของ AIVA ยังรวมถึงผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรระดับโลก จึงถือเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ที่ผลงานของคนไทยได้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลและบริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัดจะมุ่งพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อเข้าถึงและอำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากที่สุด

“เราคว้าอันดับ 1 ของโลกจากการส่งเข้าประกวดในสหรัฐอเมริกา โดยถูกจัดอันดับเป็นเว็บไซต์ ที่มีผู้ใช้เข้าสูงสุดและใช้เวลาในเว็บไซต์นานที่สุด จากความเชื่อมโยงต่างๆ ในเว็บไซต์” นางสรวงสุดา มนัสบุญเพิ่มพูล ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่ายการตลาดกลุ่มรถออโตเมติกและตราสินค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เผย

“กลยุทธ์ด้านการตลาดออนไลน์ ทำให้ ยามาฮ่า กลายเป็นแบรนด์ที่มีพลังในการดึงดูดคนทั่วโลกให้เข้ามาสนใจ ทั้งในแง่ของการสำรวจข้อมูล และอิทธิพลจากแบรนด์ ยามาฮ่า ที่มีต่อผู้ใช้ทั่วโลก”

นางสรวงสุดา หัวเรือใหญ่ด้านสื่อสารการตลาดของ ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ กล่าวว่า “ปรัชญาการทำออนไลน์ของเรา ก็มาจากปรัชญาของ ยามาฮ่า ในการสร้างแบรนด์ นั่นคือ คันโดะ ปรัชญาที่มอบให้มากกว่า ข้อมูลด้านจักรยานยนต์ เร้าความรู้สึกรอบด้าน เราสร้างความรู้ใหม่ๆ เสมอ มีความตื่นเต้นเร้าใจให้ผู้อ่านเข้าใจ และสร้างความรู้สึกร่วมกับผู้อ่านและผู้ใช้งาน “พูดในภาษาเดียวกันกับไบค์เกอร์”

“สิ่งสำคัญที่สุดเพื่อยืนยันความเป็นตัวแทนของแบรนด์ นั่นคือความถูกต้องของข้อมูล ที่ต้องสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค เมื่อเข้ามาเช็กข้อมูลในเว็บไซต์ของเรา และสร้างความผูกพันธ์กับผู้ใช้งาน ให้อยากมีส่วนร่วมกับ ยามาฮ่า ในรูปแบบต่างๆ”

นอกจากนี้ นางสรวงสุดา ยังเปิดเผยว่า ไทยยามาฮ่า ให้ความสำคัญกับการเดินหน้าแผนการตลาดออนไลน์อย่างมาก โดยพวกเขาเริ่มต้นลุยงานในโลกดิจิตัลมากนั้บตั้งแต่ปี 2014

“เราเห็นความสำคัญกับตลาดออนไลน์มานานแล้ว และลูกค้าคือฐานสำคัญในการพัฒนารูปแบบเว็บไซต์ของ ยามาฮ่า มาอย่างต่อเนื่อง”

“เราเริ่มต้นออกแบบการแสดงผลทั้งใน เว็บไซต์ ทางคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ไปพร้อมๆ กัน นี่คือหนึ่งในการลงทุนที่ถูกต้องของเรา ไม่เน้นยอดไลค์หรือแชร์มากเกินไป แต่ประเมินจากยอดการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน เราเน้นไปที่คุณภาพของการเข้าถึงของคนมากกว่า โดยเน้นหนักไปที่คุณภาพของคอนเทนต์”

การทำตลาดออนไลน์กับ ยามาฮ่า คิวบิกซ์ คือความสำเร็จอย่างชัดเจนของ ไทยยามาฮ่า

ในปี 2019 สัดส่วนงบการทำออนไลน์ของ ไทยยามาฮ่า เพิ่มจาก 10% มาเป็น 30% จากงบการสื่อสารการตลาดทั้งหมด โดยในอนาคตอาจเพิ่มข้ึนตามเทรนด์ของผู้ใช้งาน

นางสรวงสุดา เสริมว่า “ข้อดีของออนไลน์คือเป็นการสื่อสารสองทาง หากเราเร็วพอมันจะลงตัว ในแง่ของการตอบสนองได้อย่างทันท่วงที”

“ในอนาคต ยามาฮ่า เริ่มปล่อยชิ้นงานที่เป็นภาพเสมือนจริงได้มากขึ้น จากเทคโนโลยีการสื่อสารและทรัพยากรด้านอินเทอร์เน็ต ในยุค 5G ที่กำลังจะมาถึง อุปกรณ์ต่างๆ ราคาถูกลง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมของลูกค้ามากกว่าเดิม ให้กล้ามาลงทะเบียนล่วงหน้ากับเรา”

นางสรวงสุดา ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า “การทำตลาดออนไลน์แม้จะมีส่วนอย่างมากในการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ และเพิ่มความนิยมให้กับ ยามาฮ่า แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญและ ออนไลน์ มีบทบาทมากคือการเข้ามาแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด”

“เรามีการปรับปรุงรูปแบบและระบบเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รองรับความต้องการของผู้ใช้งาน และเพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทุกทีมมีสิทธิ์ออกเสียงในการแสดงความคิดเห็น เพื่อให้ทราบฟีดแบ็กของลูกค้าทันที มีคนอธิบายแทนเรา เราสามารถแก้ปัญหาได้ทีนที”

“ด้วยเว็บไซต์และระบบการสื่อสารสองทางอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีลูกค้าที่จงรักภักดีต่อบริษัทเข้ามาช่วยยืนยันแนวทางของ ยามาฮ่า เราสามารถสื่อสารข้อความต่างๆ ได้ละเอียดมากขึ้น ให้ผู้บริโภคทราบรายละเอียดในเชิงลึก ในสื่อที่ไม่ต้องใช้เม็ดเงินลงทุนมากนัก”

“การลดขั้นตอนและทรัพยากรมนุษย์ในการทำงานถือเป็นส่วนสำคัญ การตลาดออนไลน์ได้เข้ามาช่วยตรงนี้อย่างมาก สามารถทำให้ผู้ใช้คนอื่นๆ รับทราบความคิดเห็นในด้านต่างๆ ได้ จากเดิมหากลูกค้ามีปัญหาจะต้องติดต่อที่ คอลเซ็นเตอร์, และข้อมูลที่เราได้จากออนไลน์เราก็สามารถนำมาแก้ไขปัญหาได้ตลอดเวลา”

“และตัวอย่างที่ชัดเจนคือ Yamaha Premium Service ก็เป็นหนึ่งในผลพวงจากฟีดแบ็คในโลกออนไลน์ของเรา ที่สะท้านความต้องการของผู้ใช้ผ่านทางโลกออนไลน์ จนนำไปสื่อศูนย์บริการระดับพรีเมี่ยมแห่งแรกของ ยามาฮ่า ในประเทศไทย”