“เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน รอสซี่ นักบิดอิตาเลียนวัย 40 ปี จาก มอนสเตอร์ ยามาฮ่า ยอมรับว่าปัญหาเรื่องฟอร์มของตนเองใน “ยุคโมเดิร์นโมโตจีพี” ที่แผ่วลงนั้น… เกิดจากการที่ไม่สามารถยืดหยุ่นให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงของรถแข่ง ระบบอิเล็กทรอนิกส์ และ ยาง ได้ดีเพียงพอ หากเทียบกับนักบิดแถวหน้าคนอื่นๆ
แชมป์โลกพรีเมียร์คลาส 7 สมัย ไม่ชนะใน โมโตจีพี มานับตั้งแต่ แอสเซ่น ในปี 2017 พร้อมกับเปิดเผยว่ารถแข่ง M1 ในตอนนี้ ดีกว่ารถแข่ง ดูคาติ ของเขาเมื่อตอนปี 2011 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
รอสซี่ ถูกบดบังรัศมีโดยทีมเมทอย่าง มาเวริค บีญาเลส และนักบิดรุกกี้จากทีมแซ็ตเทิลไลต์อย่าง ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ในปี 2019 ซึ่งในรายหลังนั้นฉายแววอย่างมาก ในปีแรกกับ โมโตจีพี
นักบิดอิตาเลียนวัย 40 ปี เชื่อว่า นักบิดที่สร้างผลงานได้ดีในช่วงปลายฤดูกาลนั้น มีปัจจัยมาจากที่พวกเขาสามารถสร้างความยืดหยุ่น หรือปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ได้ดี อาทิเรื่อง อิเล็กทรอนิกส์ และ ยาง
“ในปีนี้… หนึ่งในเหตุผลที่นักบิดกลุ่มหน้าทำได้ดี คือสไตล์การขับขี่ของพวกเขาซึ่งยืดหยุ่นได้ดี” รอสซี่ กล่าว
“มันดูเหมือนว่าภายใต้ รถแข่งใหม่, ระบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ และยางที่แตกต่าง คุณจะต้องหาแนวทางการบิดที่แตกต่างออกไป เพื่อก้าวไปสู่ลิมิตของรถแข่ง”
“ดังนั้น มันจึงเกี่ยวกับการเบรกอย่างมาก และผมเองก็พยายามหาแนวทางการเบรกในแบบอื่นๆ ใช้เบรกหลังช่วยเพื่อหาแนวทาง แต่ปกติแล้วผมพยายามจะหยุดรถแข่งในทางตรงโดยปราศจากการใช้ยางหลัง นั่นคือจุดเริ่มต้น และเป็นการสตาร์ทที่ดีของทุกๆ คน ในการเข้าและออกโค้งที่ดี”
รอสซี่ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อปัญหาการยึดเกาะที่ล้อหลัง และได้ย้ำว่ายังไม่มีอะไรคืบหน้า แม้ว่าพวกเขาจะพยายามอย่างหนักในการปรับปรุงชิ้นส่วนต่างๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น อเล็กทรอนิกส์ และการแก้ไขอัตราเร่งของ ยามาฮ่า ให้ดีขึ้นกว่าเดิม
“ที่ผ่านมาเราปรับปรุงรถแข่งนิดหน่อยเกี่ยวกับ อิเล็กทรอนิกส์ และอัตราเร่ง ดังนั้นเราจึงมีศักยภาพในสนามดีขึ้นเล็กน้อย” นักบิดอิตาเลียนกล่าว
“ดูเหมือนความกังวลเกี่ยวกับล้อหลังของเรา จะมีมากกว่า ฮอนด้า และ ดูคาติ บางอย่างที่ผมเจอปัญหา แต่กับนักบิดบางคนอย่างเช่น กวาร์ตาราโร นั้นจะเจอปัญหาน้อยกว่า แต่ในช่วงท้ายเรซ เรามักเขอสถานการณ์ที่ยากกว่านิดหน่อย”
“จากนั้น เรามักจะสูญเสียความเร็วทางตรง แต่เราก็รักษาระดับการทำงานไว้จนถึงช่วงปลายฤดูกาล แต่เท่าที่ดูในตอนนี้รถแข่งของเราค่อนข้างยอดเยี่ยม เราจะมาดูกันต่อไป ว่าจะสามารถพัฒนาต่อเนื่องให้ดีขึ้นได้หรือไม่”
