“มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช ยอดนักบิดสาวแกร่งชาวไทยจาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ พลาดแชมป์อย่างน่าเสียดาย หลังรถแข่งมีปัญหาขณะนำโด่ง แต่แฟนชาวไทยยังได้เฮเมื่อ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ และ “เอ้” วรพงศ์ มาลาหวล พลิกเข้าป้ายอันดับ 2-3 ได้ฉลองโพเดี้ยมในบ้านเกิดส่งท้าย เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2019 ในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี ที่ สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2019 เข้าสู่โปรแกรมสนามสุดท้ายอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายนี้-1 ธันวาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร โดยล่าสุดเป็นการแข่งขันเรซสุดท้ายของคลาส เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี ในวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา
ตำแหน่งโพลในเรซนี้เป็นของยอดนักบิดสาวแกร่งชาวไทยอย่าง “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช เจ้าของหมายเลข 44 จาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ขนาบข้างด้วย ราฟิด โทปัน ซูซิปโต นักบิดอินโดนีเซียนจาก ไบค์ คัมเมอร์ เอสวายเอส เควายที เรซซิ่ง ทีม ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ “ฟิล์ม” ปิยะวัฒน์ ประทุมยศ นักบิดไทยเจ้าของหมายเลข 188 จาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ด้านทีมเมทอย่าง “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี หมายเลข 149 ได้ออกตัวจากกริดที่ 5
ออกสตาร์ทด้วยการขยับขึ้นนำอย่างรวดเร็วของ มุกข์ลดา ที่ต้องการคว้าชัยชนะเรซสุดท้ายของฤดูกาลให้ได้ นักบิดสาวไทยทำผลงานในช่วงแรกของเรซได้อย่างยอดเยี่ยม โดยหลังจากผ่านไป 3 รอบสนาม สามารถทั้งห่างคู่แข่งออกไปกว่า 2 วินาที
ทว่า มุกข์ลดา กลับต้องออกจากการแข่งขันอย่างน่าเสียดายในรอบที่ 4 ของการแข่งขัน ขณะที่ทิ้งห่างในตำแหน่งผู้นำ จากรถแข่งเกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิค พลาดการคว้าแชมป์โฮมเรซส่งท้ายฤดูกาล
อย่างไรก็ดี ในช่วง 3 รอบสุดท้าย แฟนชาวไทยได้ลุ้นเห็นนักบิดดาวรุ่งชาวไทยคว้าแชมป์ในบ้าเกิดอีกครั้ง เมื่อ ธัชกร ทะยานแซงคู่แข่ง 4 คัน ขยับขึ้นมาเป็นผู้นำได้สำเร็จ ทว่าในรอบสุดท้ายนักบิดไทยกลับเสียตำแหน่งร่วงลงไปหลายอันดับ
จบการแข่งขัน 10 รอบสนาม แชมป์เรซนี้ตกเป็นของ มูฮัมหมัด มูซัคคีร์ โมฮัมเหม็ด ดาวรุ่งมาเลเซียนจาก วันซ็อกซ์ ทีเคเคอาร์ แซ็ก ทีม ที่ คว้าแชมป์ไปครอง ตามด้วยนักบิดไทยอย่าง ปิยะวัฒน์ ที่พลิกจากกลุ่มกลางขยับขึ้นมาคว้าอันดับ 2 ได้สำเร็จ ตามหลังแชมป์เพียง 0.107 วินาที ได้ฉลองโพเดี้ยมในบ้านเกิด ตามด้วย วรพงศ์ มาลาหวล นักบิดไทยอีกคนที่ได้สิทธิ์ไวด์การ์ด พลิกขึ้นมาเข้าป้ายใอนันดับ 3 ตามหลังแชมป์ 0.290 วินาทีเท่านั้น ด้าน ธัชกร จบเรซในอันดับ 8 ตามหลังแชมป์ 0.753 วินาที
