ไม่จบง่ายๆ! “ฮอนด้า” ตัดสินใจยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของ FIM กรณีแก้ไขบทลงโทษของ มาร์ค มาร์เกซ ให้หลังจากประกาศ 2 วัน ชี้ขัดต่อกฎการแข่งขันที่ระบุไว้อย่างชัดเจน เผยพร้อมทำทุกทางเพื่อปกป้องสิทธิ์ของทีม

ดราม่าเรื่องบทลงโทษฉบับแรกที่ออกจาก สมาพันธ์จักรยานยนต์นานาชาติ (FIM) ที่ระบุว่าบทลงโทษดังกล่าวมีชัดเจนเพียงใน อาร์เจนติน่า กรังด์ปรีซ์ ส่งผลให้เบื้องต้น มาร์เกซ ที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องผ่าตัดฝ่ามือขวา และถอนตัวจากสนามดังกล่าวไม่มีโทษติดตัว

อย่างไรก็ดี เมื่อช่วงบ่ายวันอังคารที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา เอฟไอเอ็ม โมโตจีพี ได้ออกแถลงการณ์ฉบับต่อมาในหัวขช้อบทลงโทษของ มาร์เกซ โดยใจความระบุว่า จากเหตุปะทะรุนแรงของ มาร์เกซ ที่มีต่อ ฮอร์เก มาร์ติน และ มิเกล โอลิเวียร่า คณะกรรมการเห็นสมควรให้ลงโทษด้วย “ดับเบิล ลองแล็ป เพนัลตี้” ในการแข่งขัน “อาร์เจนติน่า กรังด์ปรีซ์”

ทว่าจากการถอนตัวของ มาร์เกซ ที่ได้รับบาดเจ็บ ทำให้บทลงโทษถูกตีความได้ทันทีว่าเขาจะไม่ต้องรับโทษดังกล่าว เพราะไม่ได้ลงแข่งขันจากเหตุผลดังกล่าว คณะกรรมการ์เอฟไอเอ็ม ได้พิจารณาอีกครั้ง และเป็นว่าเป็นการสมควรที่จะมีโทษติดต่อไปในสนามต่อไปที่สามารถลงแข่งขันได้ จึงตัดสินให้ลงโทษ “ดับเบิล ลองแล็ป เพนัลตี้” แก่ มาร์ค มาร์เกซ ในสนามต่อไปที่เขาลงแข่ง

การกลับคำตัดสินดังกล่าวนับเป็นอีกหนึ่งในประวัติศาสตร์ของ โมโตจีพี ที่มีการประกาศเพิ่มเติม ซึ่งดูเหมือนว่าแฟนๆ ทั่วโลกจะพอใจกับประกาศดังกล่าว ทว่าอาจส่งผลต่อแผนของ เรปโซล ฮอนด้า ที่ตัดสินใจถอนตัว มาร์เกซ ออกจากการแข่งขันที่ อาร์เจนติน่า

ล่าสุดช่วงค่ำวันพุธที่ 29 มีนาคที่ผ่านมา ฮอนด้า ได้ออกแถลงการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงบทลงโทษของ เอฟไอเอ็ม ด้วยท่าทีไม่เห็นด้วย และพร้อมรักษาสิทธิ์ของทีมด้วยการยื่นอุทธรณ์

แถลงการณ์ระบุว่า :

“เกี่ยวกับการลงโทษที่กำหนดโดย FIM ต่อ มาร์ค มาร์เกซ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการแข่งขัน โปรตุกีส กรังด์ปรีซ์ ทีม เรปโซล ฮอนด้า พิจารณาว่าการปรับเปลี่ยนบทลงโทษ ซึ่งประกอบด้วยการเปลี่ยนแปลงว่าเมื่อใดควรใช้บทลงโทษ และ การแก้ไขนี้ออกโดย FIM สองวันหลังจากการลงโทษครั้งแรกถือเป็นที่สิ้นสุดและเป็นที่สิ้นสุด ซึ่งไม่สอดคล้องกับข้อบังคับปัจจุบันของ FIM สำหรับการแข่งขัน MotoGP World Championship”

“ด้วยเหตุผลนี้ ทีม Repsol Honda ตั้งใจที่จะใช้ทุกวิถีทางในการขอความช่วยเหลือตามข้อบังคับ เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งถือว่าละเมิดอันเป็นผลมาจากมติล่าสุดที่นำมาใช้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ส่ง อุทธรณ์ต่อหน้า FIM อุทธรณ์สจ๊วต”