ชาร์ลส์ เลอแคลร์ นักขับดาวรุ่งโมนาโก ควบรถแข่ง “ม้าลำพอง” ผงาดคว้าแชมป์ อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ ที่ มอนซ่า ประเทศอิตาลี ต่อหน้าสาวกม้าลำพองอย่างสะใจ พร้อมเข้าวิน 2 สนามติดต่อกัน ขณะ อเล็กซ์ อัลบอน อังศุสิงห์ นักขับไทยจาก เรดบูลล์ เรซซิ่ง ฝ่าด่านหินจบเรซอันดับ 6 จากเกมสุดโหดเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ศึก ฟอร์มูล่าวัน 2019 สนาม 14 รายการ อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา ที่ ออโตโดรโม นาซินาเล มอนซ่า ประเทศอิตาลี ชิงชัยทั้งสิ้น 53 รอบสนาม

ตำแหน่งโพลในเรซนี้เป็นของ ชาร์ลส์ เลอแคลร์ นักขับโมนาโกจาก เฟอร์รารี่ ขนาบข้างด้วย ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลกชาวอังกฤษจาก เมอร์เซเดส และทีมเมทอย่าง วัลเตรี บ็อตตาส ในกริดที่ 2 และ 3 ด้าน อเล็กซ์ อัลบอน นักขับไทยจาก เรดบูลล์ เรซซิ่ง-ฮอนด้า ได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 8

เพียงรอบแรก แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น นักขับวัยรุ่นดัตช์จาก เรดบูลล์ เรซซิ่ง ต้องนำรถกลับเข้าพิตหลังจากที่ จมูกหน้า เสียหาย จากนั้น อัลบอน ที่แซงผ่าน คาร์ลอส แซงซ์ นักขับสแปนิชจาก แม็คลาเรน แต่โดนเอาคืนและเบียดออกนอกแทร็ก ส่งผลให้นักขับไทยร่วงลงไปถึงขอบหญ้า จนร่วงลงไปถึงอันดับ 11

อย่างไรก็ดี จังหวะของ เซบาสเตียน เวทเทล นักขับเยอรมันจาก เฟอร์รารี่ ถือเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อเขาพลาดหมุนในชิเคน ก่อนจะพยายามกลับสู่แทร็กจนชนเข้ากับ แลนซ์ สตรอลล์ จากจังหวะดังกล่าวทำให้อันดับเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดย อัลบอน ขยับขึ้นมาถึงอันดับ 8 และไล่แซง อันโตนิโอ จิโอวินาสซี นักขับอิตาเลียนจาก อัลฟา โรมิโอ ขึ้นมารั้งอันดับ 7 ในรอบที่ 16

หลังเข้าพิตครั้งแรกในรอบที่ 20 ของ แฮมิลตัน และในรอบที่ 21 ของ เลอแคลร์ อันดับผู้นำยังคงเหมือนเดิม ทว่ามีจังหวะให้หวาดเสียวเล็กน้อยโดย นักขับโมนาโกเบียดใส่ แฮมิลตัน จนหลุดออกนอกแทร็กจนโดนธง ขาว-ดำ แต่อันดับก็ยังคงเดิม ขณะที่ อัลบอน เข้าพิตครั้งแรกเพื่เปลี่ยนยางกลับสู่แทร็กอีกครั้งในอันดับ 8 ก่อนจะขยับขึ้นรั้งอันดับ 7 ในช่วง 21 รอบสุดท้าย และขึ้นเป็นอันดับ 6 ในรอบถัดมา

ช่วง 20 รอบสุดท้าย แฮมิลตัน ไล่กดดัน เลอแคลร์ อย่างหนัก ด้วยระยะห่างเพียงไม่ถึง 1 วินาที ในทุกๆ รอบ จนกระทั่งในรอบที่ 36 ดาวรุ่งเฟอร์รารี่พลาดหลุดออกมาในชิเคนแรก ทำให้ระยะห่างร่นเข้าไปอีก

จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วง 10 รอบสุดท้าย เมื่อ แฮมิลตัน พลาดเบรกลึกจนล้อล็อกในชิเคนแรก ส่งผลให้ เลอแคลร์ ทุกช่วงห่างออกไปอีก แถมยังโดน บ็อตตาส ทีมเมทขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 เพื่อไล่บี้กับหัวแถวในช่วงท้ายเรซ

จบการแข่งขัน 53 รอบสนาม เลอแคลร์ เข้าวิน 2 สนามติดต่อกัน ด้วยเวลารวม เหนือ บ็อตตาส อันดับ 2 เพียง 0.835 วินาที ด้าน แฮมิลตัน ร่วงลงไปจบเรซในอันดับ 3 ตามหลังแชมป์ 35.199 วินาที

ส่วนอันดับ 4 และ 5 เป็นของคู่หู เรโนลต์ อย่าง แดเนียล ริคคิอาร์โด และ นิโก ฮัลเคนเบิร์ก ตามลำดับ 

ด้าน อัลบอน พยายามไล่ตามท็อปไฟว์อย่างหนักในช่วงท้าย แต่นักขับไทยทำได้ดีที่สุด ด้วยการนำรถแข่งเข้าป้ายในอันดับ 6 ตามหลังแชมป์ 

ผลการแข่งขัน อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์

Cla # Driver Chassis Engine Laps Time Pits Points
1 16  Charles Leclerc Ferrari Ferrari 53 1:15’26.665 1 25
2 77  Valtteri Bottas Mercedes Mercedes 53 +0.835 1 18
3 44  Lewis Hamilton Mercedes Mercedes 53 +35.199 2 16
4 3  Daniel Ricciardo Renault Renault 53 +45.515 1 12
5 27  Nico Hulkenberg Renault Renault 53 +58.165 1 10
6 23  Alex Albon Red Bull Honda 53 +59.315 1 8
7 11  Sergio Perez Racing Point Mercedes 53 +1’13.802 1 6
8 33  Max Verstappen Red Bull Honda 53 +1’14.492 2 4
9 99  Antonio Giovinazzi Alfa Romeo Ferrari 52 +1 lap 1 2
10 4  Lando Norris McLaren Renault 52 +1 lap 1 1
11 10  Pierre Gasly Toro Rosso Honda 52 +1 lap 1
12 18  Lance Stroll Racing Point Mercedes 52 +1 lap 2
13 5  Sebastian Vettel Ferrari Ferrari 52 +1 lap 3
14 63  George Russell Williams Mercedes 52 +1 lap 1
15 7  Kimi Raikkonen Alfa Romeo Ferrari 52 +1 lap 2
16 8  Romain Grosjean Haas Ferrari 52 +1 lap 2
17 88  Robert Kubica Williams Mercedes 51 +2 laps 2
dnf 20  Kevin Magnussen Haas Ferrari 43
3
dnf 26  Daniil Kvyat Toro Rosso Honda 29
1
dnf 55  Carlos Sainz Jr. McLaren Renault 27
1