แซนดี้ สตูวิค ยอดนักขับลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ จาก บี-ควิก เรซซิ่ง ควงทีมเมทชาวเอสโตเนียอย่าง มาร์ติน รัมป์ สวมฟอร์มโหดในศึก ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ สนามสุดท้าย ก่อนผงาดคว้าแชมป์ประเทศไทยในคลาส จีที3 หลังจบเรซที่ สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์

ศึกรถยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ 2019 สนามสุดท้าย ดวลความเร็วเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต

โดย แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค นักขับไทยลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ สังกัดทีมบี-ควิก เรซซิ่ง ใช้รถออดี้ อาร์ 8 จีที 3 อีโว (Audi R8 GT3 Evo)  หมายเลข 2  จับคู่กับทีมเมท ชาวเอสโตเนีย มาร์ติน   รัมป์ (Martin Rump) แซนดี้ได้ฝึกซ้อมและการจัดอันดับ(รอบควอลิฟาย) ในวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 62 และทำการแข่งขันจริงเรสที่ 1 ในบ่ายวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 62 และ ทำการแข่งขันจริงเรซที่ 2 ในบ่ายวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 62

ในช่วงเย็นของวันศุกร์ ซึ่งเป็นฝึกซ้อมและการจัดอันดับในการออกสตาร์ทในวันแข่งขันจริง (รอบการควอลิฟาย) ในควอลิฟายแรก  แซนดี้ในรถออดี้หมายเลข 2 สามารถกดคันเร่งทำเวลาได้ดีที่สุด คว้าโพลโพซิชั่นได้สำเร็จ ทำให้แซนดี้ได้ออกจากกริดสตาร์ทในการแข่งขันจริงเรซที่ 1 (วันเสาร์)  เป็นคันแรก ด้านทีมเมท มาร์ติน รัมป์ (Martin Rump) ลงสนามรอบควอลิฟายที่ 2 ทำเวลาได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน เกือบได้ตำแหน่งโพลโพซิชั่น แต่น่าเสียดาย มาร์ติน โดนปรับเวลาเรื่องแทร็กลิมิต ทำให้หล่นมาอยู่ในอันดับที่ 2 มาร์ติน จึงต้องออกจากกริดสตาร์ทที่ 2 ในการแข่งขันจริงเรซที่ 2 (วันอาทิตย์)

ในบ่ายวันเสาร์ แซนดี้ลงแข่งขันในเรซที่ 1 เป็นคนแรก โดยออกจากตำแหน่งโพลโพซิชั่น (คันแรก) แซนดี้เร่งทำช่วงเวลาทิ้งห่างคู่แข่งที่ตามอยู่ด้านหลังได้ดีเยี่ยม ทำให้ส่งมือต่อให้ทีมเมทชาวเอสโตเนีย  มาร์ติน รัมป์ (Martin Rump) อย่างราบรื่น มาร์ตินกดคันเร่งต่ออย่างเต็มที่ จนสามารถคว้าแชมป์ประจำเรสที่ 1 ได้สำเร็จ แซนดี้กล่าวว่าเป็นเรซที่เหลือเชื่อมากและเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความทุ่มเทของทีมในการเตรียมรถแข่งให้ผมได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดผมมีความสุขที่ได้ขับในเรซนี้

ในบ่ายวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นเรสสุดท้ายแห่งปีแล้วที่แซนดี้จะได้แข่งในฤดูกาลนี้  การแข่งขันเรสที่ 2 มาร์ติน รัมป์ (Martin Rump) รับหน้าที่ลงแข่งขันเป็นคนแรก โดยออกจากกริดสตาร์ทที่ 2 มาร์ตินเร่งสปีดเต็มที่เพื่อแซง เฟอร์รารี่ 488 หมายเลข 34 ให้ได้ เมื่อช่วงพิทสตอปเกิดขึ้น แซนดี้รับช่วงต่อของการแข่งขันช่วงท้าย โดยแซนดี้โดนบวกเวลาให้อยู่ในพิทต่อเป็นเวลา 154 วินาที เนื่องจากการได้แชมป์เรซที่ 1 เมื่อวานนี้ (Success penalty) การเป็นนักขับระดับ Silver ของทั้งแซนดี้และมาร์ติน

เมื่อ พิทวินโดวปิดลง กลับมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ทำให้รถเซฟตี้คาร์ออกมานำขบวนรถแข่งทุกคัน ส่งผลให้รถทุกคันมีระยะห่างที่ใกล้กันมากขึ้น ขณะนั้นแซนดี้อยู่ในอับดับที่ 4  แซนดี้ต้องการอีกเพียง 5 คะแนนเท่านั้นที่จะได้แชมป์ประจำปี แซนดี้จึงรีบเร่งฝีเท้าแซงผ่านคู่แข่งอันดับ 1-3 ให้สำเร็จ ในที่สุด แซนดี้ก็ทำสำเร็จในช่วง 2 โค้งสุดท้าย แต่น่าเสียดายที่สจ๊วตปรับโทษส่งผลให้แซนดี้ต้องขึ้นโพเดียมอันดับ 2 ของเรสที่ 2 แต่อย่างไรก็ตาม คะแนนสะสมที่มีรวมกับคะแนนทั้ง 2 เรซ ของสนามสุดท้ายนี้ ยังคงทำให้แซนดี้สามารถก้าวขึ้นแท่นแชมป์ประจำปีประเภทนักขับได้สำเร็จ

แซนดี้ พูดหลังจากจบการแข่งขัน กล่าวว่า ผมยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผมจะคว้าแชมป์ปีนี้มาครองได้สำเร็จผมขอขอบคุณทุกคนที่ร่วมเป็นส่วนของเส้นทางความสำเร็จในปีนี้  ผมแทบจะรอไม่ไหวแล้วกับสิ่งที่รออยู่ในวันข้างหน้าแต่ตอนนี้ขอมีความสุขกับแชมป์นี้ก่อนแซนดี้ กล่าวหลังจากจบการแข่งขัน

นอกจากนี้ ทีมบี-ควิก เรซซิ่ง ยังคว้าแชมป์ประเภททีม ประจำฤดูกาล และ  เฮงก์ กิกส์ (Henk Kiks) และแดเนียล บิลสกี (Daniel Bilski) เพื่อนร่วมทีม หมายเลข 26 คว้าแชมป์นักขับรุ่น AM อีกด้วย  

แซนดี้ เคราแก้ว สตูวิค นักแข่งไทย ภายใต้การสนับสนุนจากเดอะพิซซ่าคอมปะนี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การบินไทย พูม่าไทยแลนด์ ดาคอน เทรดดิ้ง ไทยวิงส์ทราเวลเอเจนท์ ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย และการกีฬาแห่งประเทศไทย