[บทความและเรียบเรียงโดย : FascinatorFJ]

คุณเคยรู้สึกเบื่อบ้างไหม? กับการแข่งขันฟอร์มูล่าวันยุคปัจจุบันที่ไร้ความตื่นเต้นระหว่างการแข่งขัน อันที่จริงมันแทบจะเดาผลการแข่งขันได้ตั้งแต่เห็นผลการควอลิฟายเลยเสียด้วยซ้ำ แน่นอนว่าคุณไม่ได้เป็นคนเดียวที่รู้สึกไปเอง แฟนๆ F1 ทั่วโลกต่างรู้สึกอย่างนั้น และมันได้กลายมาเป็นโจทย์ให้บรรดาผู้ใหญ่ในวงการต้องทำการแก้ไข ซึ่งพวกเขาวางเป้าหมายที่จะพลิกโฉมฟอร์มูล่าวันในปี 2021

หลังจากใช้เวลา 2 ปีเต็ม ในการถกเถียง อภิปราย ถกเถียง อภิปราย วนไปวนมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดร่างกฎใหม่ที่จะใช้ในปี 2021 ก็ได้ถูกคลอดออกมา โดยมีเนื้อหาสาระสำคัญ 4 ข้อ ดังนี้

1. รถแข่งที่สามารถแข่งขันกันได้มากขึ้นบนแทร็ค

นับตั้งแต่ปี 2017 เราแทบจะไม่เห็นรถแข่งต่อสู้หรือแซงกันบนแทร็คเลย สืบเนื่องมาจากกติกาใหม่ที่ออกมาในปีนั้นที่ต้องการให้รถแข่งทำความเร็วบนแทร็คได้สูงสุด นั่นแปลว่ารถแข่งจะต้องเข้าโค้งด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่าอากาศพลศาสตร์ของรถจะต้องมีศักยภาพที่จะสร้างดาวน์ฟอร์ซในปริมาณมหาศาลขึ้นมา และนั่นก็คือหายนะของการแข่งขันเมื่อรถแข่งปล่อยอากาศปั่นป่วนไปยังท้ายรถมากเกินกว่าที่รถคันหลังจะสามารถขยับเข้าใกล้ได้

จากการคำนวณเบื้องต้นของรถแข่งปัจจุบันนั้น เมื่อรถแข่งคันหลังตามคันหน้าเข้ามาอยู่ในระยะ 1 คันรถ รถแข่งคันหลังจะสูญเสียดาวน์ฟอร์ซไปมากถึง 50% สาเหตุนั้นเกิดจากบอดี้พาร์ทตัวรถที่สลับซับซ้อนซึ่งนอกจากมันจะสร้างดาวน์ฟอร์ซมหาศาลแล้ว มันยังสร้างอากาศปั่นป่วนอย่างมหาศาลด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะมีการออกกฎลดความซับซ้อนของชิ้นส่วนต่างๆ ลงในปีนี้ แต่นั่นก็ดูจะช่วยได้ไม่มากนัก ทาง F1 จึงต้องทำการรื้อหลักอากาศพลศาสตร์ตัวรถใหม่ทั้งหมดในปี 2021 และถ้าหากทำได้จริง พวกเขาจะสามารถลดการสูญเสียดาวน์ฟอร์ซของรถคันหลังเหลือเพียง 10% ในช่วง 1 คันรถ และ 5% ในช่วง 3 คันรถ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยเวลาต่อรอบที่อาจจะเพิ่มขึ้น 3.5 – 4 วินาที/รอบ เลยทีเดียว

อย่างหนึ่งที่พวกเขาจะทำกับอากาศพลศาสตร์ของตัวรถนอกจากลดความซับซ้อนของปีกหน้าและปีกนกคู่หน้าแล้ว เราจะได้เห็นการกลับมาอีกครั้งของ กราวน์ เอฟเฟ็คต์ ซึ่งเป็นการออกแบบรูปทรงข้างใต้ตัวรถที่จะช่วยสร้างดาวน์ฟอร์ซ และมันเคยเป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงปลายยุค 70 ต้นยุค 80

นอกจากอากาศปั่นป่วนของรถคันหน้าจะสร้างปัญหาให้กับอากาศพลศาสตร์ของรถคันหลังแล้ว มันยังสร้างผลกระทบต่อยางของรถคันหลังอีกด้วย เมื่อต้องขับตามรถคันหน้า ยางของรถคันหลังมักจะโอเวอร์ฮีทและสึกเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นยางจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะถูกเปลี่ยนในปี 2021 โดย F1 จะหันไปใช้ยางแก้มเตี้ยขอบ 18 นิ้ว แทนที่ขอบ 13 นิ้ว ปัจจุบัน ยางจะมีการสึกหรอน้อยลงซึ่งนั่นช่วยให้นักแข่งสามารถเค้นศักยภาพรถออกมาบี้กันได้มากขึ้น แทนที่จะต้องขับถนอมยางวิ่งตามกันไปเป็นรถไฟ อย่างไรก็ตามยางจะไม่ทนทานมากถึงขนาดวิ่งได้ครบรอบการแข่งขัน เพราะพวกเขายังคงเชื่อว่า แฟนๆ ยังต้องการที่จะเห็นการทำงานในพิทซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน

2. กริดที่มีการแข่งขันกันมากขึ้น

ในปีนี้พอจะมีการแข่งขันบางรายการที่มีความสนุกตื่นเต้นใช้ได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะเยอรมันกรังด์ปรีซ์ซึ่งมีฝนตกลงมาช่วยเพิ่มอรรถรสในระหว่างการแข่งขัน แต่ถ้าหากไม่มีฝนตกลงมาล่ะ? บริติชกรังด์ปรีซ์ก็ยังแสดงให้เห็นว่า F1 ยังคงสามารถสร้างความสนุกสนานให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามเมื่อเรามองลึกลงไปยังกริดการแข่งขัน โพลแล็ปของ วาลท์เทรี บ็อตตาส นั้นเร็วกว่ากริดสุดท้ายอย่าง โรเบิร์ต คูบิซ่า อยู่มากกว่า 3 วินาที และนี่ดูจะเป็นปัญหาที่ F1 ต้องเร่งทำการแก้ไข

นับตั้งแต่เข้าสู่ยุคไฮบริดเป็นต้นมา ผู้ชนะนั้นจะมาจากเพียง 3 ทีมใหญ่ เท่านั้น คือ เฟอร์รารี, เมอร์เซเดส และ เรดบูลล์ และต้องนับย้อนกลับไปถึง 6 ปี หรือถ้าให้เฉพาะเจาะจงกว่านั้น 137 เรซ เลยทีเดียว ที่เราไม่ได้มีผู้ชนะที่มาจากนอกเหนือ 3 ทีมใหญ่ ซึ่งมันดูจะไม่เป็นธรรมกับทีมขนาดกลางและขนาดเล็กเสียเท่าไรนัก ดังนั้นทาง F1 จึงได้เตรียมริเริ่มที่จะนำมาตรการบางอย่างมาใช้ในปี 2021

เริ่มจากการระบุ “ชิ้นส่วนที่อยู่ในบัญชีรายชื่อ” ชิ้นส่วนที่ถูกระบุอยู่ในลิสต์ทาง F1 ต้องการให้แต่ละทีมนั้นใช้เป็นแบบเดียวหรือมาตรฐานเดียวกัน โดยจะมีซัพพลายเออร์ที่ได้รับประมูลส่งชิ้นส่วนเหล่านี้ให้กับทีมแข่งต่างๆ ซึ่งชิ้นส่วนที่อยู่ในบัญชีรายชื่อยังคงไม่ได้ข้อสรุปสุดท้าย และยังคงมีการปรับแต่งรายชื่อกันต่อไปเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

มีการจำกัดการทดสอบมากขึ้นกว่าในอดีต การทดสอบในอุโมงค์ลมจะถูกลดลง เพื่อป้องกันไม่ให้ทีมแข่งขนาดใหญ่พัฒนารวดเร็วจนทีมแข่งขนาดเล็กตามไม่ทัน

ในส่วนของสุดสัปดาห์การแข่งขันก็มีการปรับเปลี่ยนเช่นกัน โดยการให้สัมภาษณ์ในห้องแถลงข่าวของนักแข่งจะถูกย้ายจากวันพฤหัสบดีมายังวันศุกร์ และขยับรอบซ้อมที่ 1 กับรอบซ้อมที่ 2 ออกไป แต่ยังคงไว้ซึ่งตารางเวลาเดิมของรอบซ้อมที่ 3, ควอลิฟาย และ การแข่งขัน นอกจากนั้นกฎการห้ามปรับแต่งรถใน พาร์ค เฟอเม่ จะถูกขยับมาใช้ตั้งแต่รอบซ้อมที่ 3 จากเดิมที่เริ่มใช้ในการควอลิฟาย สิ่งเหล่านี้จะทำให้ตารางเวลาในการทำงานของแต่ละทีมบีบแน่นยิ่งขึ้น รอบซ้อมที่ 1 และ 2 มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ทีมแข่งขนาดใหญ่จะไม่สามารถนำชิ้นส่วนอัพเดทมาทดสอบรถได้บ่อยครั้งเช่นในอดีต เพราะพวกเขาจำเป็นจะต้องเลือกว่าจะใช้หรือไม่ใช้ชิ้นส่วนใหม่ที่ยังไม่ผ่านการประเมินเสร็จสมบูรณ์ก่อนรอบซ้อมที่ 3

การทดสอบในอุโมงก์ลม หนึ่งในขั้นตอนที่สุดเปลืองของการพัมนารถแข่งเอฟวัน และนี่คือภาพแรกของการอทสต์ในอุโมงก์ลมของต้นแบบในปี 2021

3. การจำกัดงบประมาณและลดค่าใช้จ่าย (ที่ต้องทำให้สำเร็จเสียที)

คาบเกี่ยวกับหัวข้อที่ 2 อย่างที่เราได้เห็นกันไปแล้วว่า F1 พยายามที่จะผลักดันให้มีความเท่าเทียมกันในการแข่งขันให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งที่พวกเขาทำข้างต้นนั้นมีผลช่วยให้ลดค่าใช้จ่ายด้วยกันทั้งสิ้น การใช้ชิ้นส่วนมาตรฐานเดียวกันก็จะทำให้มีผู้ผลิตส่งจำหน่ายเพียงรายเดียว ไม่ต้องเสียงบพัฒนาชิ้นส่วนแต่อย่างใด ลดการใช้งานอุโมงค์ลมก็ย่อมที่จะทำให้ค่าใช้จ่ายลดลง สุดสัปดาห์การแข่งขันที่เดิมทีนั้นจะมี 4 วัน ก็ลดลงเหลือ 3 วัน ซึ่งนั่นไม่เพียงแต่เป็นการลดภาระให้กับทีมแข่ง แต่มันยังช่วยลดภาระผู้เข้าชมด้วยเช่นกัน

เหนือสิ่งอื่นใด มันจะเป็นครั้งแรกที่ F1 มีตัวเลขในการจำกัดงบประมาณที่แน่นอน โดยพวกเขาตั้งเป้าที่ 175 ล้าน เหรียญสหรัฐ/ทีม/ปี กับการใช้งบในส่วนนี้เพื่อพัฒนาศักยภาพรถเพียงอย่างเดียว โดยมันจะไม่รวมกับค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวกับการเพิ่มศักยภาพรถอย่างอื่น เช่น ค่าใช้จ่ายทางการตลาด, ค่าตัวนักขับ หรือ ค่าตัวบุคลากรชั้นนำขององค์กร

หน้าตาของรถแข่ง F1 2021 ดูเล่นหูเล่นตากับผู้ชมมากขึ้น ลองจินนาการดูครับ เมื่อใช้กล้องซูเปอร์สโลวถ่ายออกมาจะเซ็กซี่ขนาดไหน

4. รถแข่งที่เซ็กซี่มากขึ้น

หลายครั้งหลายหนที่การออกกฎกติกาใหม่ทำให้รถแข่งนั้นดูแย่มากในสายตาของแฟนๆ ถ้าจำกันได้กฎใหม่ที่ออกมาในปี 2009 และ 2014 เหล่านี้เป็นตัวอย่างของความหายนะที่เกิดขึ้นในงานออกแบบ แต่โชคดีมากที่กฎใหม่ในปี 2021 ทาง F1 ได้พิจารณาเรื่องความสวยงามเข้าไปด้วย

ด้วยการออกแบบปีกหน้าและรูปทรงรถใหม่เพื่อให้ได้มาซึ่งการลดอากาศปั่นป่วนที่ออกไปสู่ท้ายรถ รวมทั้งยางขอบ 18 นิ้ว ที่จะช่วยปรับปรุงการแข่งขัน เหล่านี้เมื่อมาอยู่ภายใต้การออกแบบของนักออกแบบสายยานยนต์ ซึ่ง F1 ได้เรียกให้เข้ามามีส่วนร่วมด้วย ภาพสเก็ตของรถ F1 2021 ที่ถูกปล่อยออกมานั้นดูลงตัวขึ้นมากเลยทีเดียว รอส บรอว์น กรรมการผู้จัดการ F1 ถึงกับกล่าวว่า มันเป็นครั้งแรกที่ F1 ได้ให้โอกาสแฟนๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางของวงการ เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตอบโจทย์ต่อแฟนๆ ในอนาคต

ประตูมิติอันประกอบด้วย ตัวแปร 4 อย่าง ความสูสีของรถแข่ง, การจัดกริดที่เข้มข้น, การจำกัดงลประมาณที่เข้มงวด และรถแข่งที่มีรูปร่างเซ็กซี่มากขึ้น จะนำพา ฟอร์มูล่าวัน ในปี 2021 ก้าวสู่ยุคใหม่ ในแบบที่จินตนาการไม่ถึง… จนกว่าจะเริ่มทดสอบกันอย่างจริงจัง…

เมื่อถึงวันนั้น… ประตูมิติของยุคใหม่แห่งรถสูตรหนึ่ง จะพาทุกท่านวาร์ปไปสู่ความล้ำหน้าอีกขั้นของการรับชม…

ที่มา : 

  • f1.com
  • motorsport.com
  • skysports.com