อเล็กซ์ มาร์เกซ แชมป์โลก โมโตทู ถูกเลือกให้ขยับขึ้นมาเป็นในพรีเมียร์คลาสเคียงข้าง มาร์ค มาร์เกซ พี่ชายที่คว้าแชมป์โลกพรีเมียร์คลาส 6 สมัยในฤดูกาล 2020 และนี่คือครั้งแรกที่เขาสวมเครื่องแบบ เรปโซล ฮอนด้า อย่างเป็นทางการ… พร้อมกับเปิดอกถึง 5 คำถามที่ส่องถึงก้นบึ้งของหัวใจก่อนลุย โมโตจีพี ครั้งแรกในชีวิต

  • ความรู้สึกแรกกับเครื่องแบบ เรปโซล ฮอนด้า
  • การเป็นรุกกี้ในฐานะนักขับทีมโรงงาน
  • เป้าหมายในปีแรกกับเส้นทางสุดท้าทาย
  • รูปร่างที่สูงใหญ่ของเขาได้เปรียบ หรือ เสียเปรียบใน โมโตจีพี
  • การเป็นทีมเมทกับ มาร์ค มาร์เกซ ให้อะไรกับคุณบ้าง?

นี่คือครั้งแรกกับการสวมเครื่องแบบเรปโซลฮอนด้ามันคืออะไรในความหมายของคุณ?

“แน่นอน มันคือฝันที่เป็นจริง เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้สวมเครื่องแบบนี้ ผมมีความสุขกับโอกาสครั้งนี้ในการก้าวสู่ โมโตจีพี กับ เรปโซล ฮอนด้า ผมประทับใจสุดๆ มันคือสถานการณ์ใหม่ของผม เพราะที่ผ่านมาผมทำได้เพียงดู มาร์ค (พี่ชาย) สวมชุดของ เรปโซล ฮอนด้า ลงแข่งขัน มันวิเศษสุดๆ”

รู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อคุณกำลังจะก้าวเข้ามาเป็นรุกกี้ในทีมระดับตำนานอย่างเรปโซลฮอนด้า ?

“ผมคิดว่าทุกๆ ครั้งที่เราเป็นรุกกี้มันคือความฝัน หรือเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนักบิดของทีมโรงงาน หลังจากคว้าแชมป์โลก โมโตทู แน่นอนว่าเป้ามายของคุณคือการเป็นนักบิดในทีมโรงงาน ดังนั้นสิ่งนี้จริงเป็นความฝันที่เป็นจริงสำหรับผม ในการเข้ามาเป็นนักบิดของ เรปโซล ฮอนด้า ทีมที่มีประวัติศาสตร์กับ โมโตจีพี”

“ผมรู้ดีว่ามันคือความท้าทาย แต่มันคือความท้าทายที่เจ๋งมาก จากครั้งแรกที่ผมเคยบอกว่าผมต้องการโอกาสนี้ และแน่นอนเมื่อมันมาถึง ผมก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อคว้ามันไว้ และสนุกไปกับมัน”

เป้าหมายของคุณในฤดูกาลแรกกับพรีเมียร์คลาส?

“ผมสามารถพูดได้ว่าผมต้องการเป็น รุกกี้ ออฟ เดอะ เยียร์ นั่นคือเป้าหมายในปีแรก แต่เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายนั้นให้ได้ ตอนนี้ผมจึงต้องเร่งทำความเข้าใจกับรถแข่ง RC213V และสร้างความมั่นใจบนรถแข่งให้มากขึ้น ก่อนจะเข้าสู่การแข่งขันสนามแรกที่ กาตาร์ เราต้องหาให้เจอว่าอะไรคือตำแหน่งที่แท้จริงของเรา ว่าอะไรคือสิ่งที่เราสามารถทำได้ในสนามแรก”

คุณคือหนึ่งในนักบิดที่มีส่วนสูงมากที่สุดในโมโตจีพีคุณคิดว่ามันจะช่วยให้คุณเปรียบหรือไม่?

“การมีความสูงนั้นอาจทำให้คุณได้เปรียบ แต่ก็ต่อเมื่อคุณสามารถจัดการกับน้ำหนักของตัวเองได้ บางทีในการแข่งขันสนามเปียกมันอาจจะง่าย แต่ขณะเดียวกันในบางสถานการณ์มันก็ไม่ได้สร้างความได้เปรียบเลย และดูเหมือนจะเป็นการเสียบเปรียบด้วยซ้ำ แต่คุณก็รู้… ว่าคุณต้องใช้ชีวิตกับสิ่งเหล่านี้ และเพื่อที่จะแข็งแกร่งคุณจะต้องรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่คุณทำได้ อะไรคือสิ่งที่คุณเสียเปรียบภายใต้จุดอ่อนที่มี”

นี่คือครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีนักบิด 2 พี่น้องในพิตเดียวกันของโมโตจีพี

“มันคืออะไรที่พิเศษสุดๆ แต่เราจำเป็นต้องจัดการมันโดยธรรมชาติ และทำงานกันเหมือนสถานการณ์ปกติ เรารู้ดีว่าเป็นพี่น้องกัน แต่ในการทำงานเราต้องการความเป็นมืออาชีพ เราคือนักบิดคนละคนกัน เราต่างก็มีทีมของตัวเอง ดังนั้นเราต้องการทำงานในแนวทางของตัวเอง”

“แน่นอน… สำหรับผมมันคือความได้เปรียบที่มีแชมป์โลก 6 สมัยในการาจ เพราะผมสามารถดูข้อมูลต่างๆ ของเขาได้ และดูว่าจะต้องขี่รถแข่งฮอนด้าอย่างไร เพื่อหาเคล็ดลับให้เจอ ดังนั้นเราจึงต้องพยายามหาข้อมูลจากเขาให้ได้ และนักบิดทุกคนของฮอนด้า ก็พยายามเช่นนั้นเหมือนกัน เท่าที่จะเป็นไปได้”