“เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน รอสซี่ ตำนานโมโตจีพีวัย 41 ปี ออกโรงเผยว่า เขา “กดดัน” ยามาฮ่า อย่างหนักเพื่อให้เซ็นสัญญาอดีตทีมเมทอย่าง ฮอร์เก ลอเรนโซ คัมแบ็กสู่ทีมในฐานะนักบิดทดสอบในปี 2020

ลอเรนโซ ซึ่งคว้าแชมป์โลกพรีเมียร์คลาส 3 สมัย ตลอดระยะเวลา 9 ปี กับ ยามาฮ่า ได้ประกาศรีไทร์ตนเองจากอาชีพนักบิดหลังจบฤดูกาล 2019 ก่อนจะได้รับสัญญาจาก ยามาฮ่า ในฐานะนักบิดทดสอบของทีม

“เดอะสปาร์ตัน” ลงบิดทดสอบ M1 เป็นเวลา 1 วันเต็มๆ ใน เชคดาวน์ เทสต์ เซปัง วันสุดท้าย พร้อมกับเผยว่า “M1 ยังคงเหมาะกับสไตล์การบิดของตนเองเสมอ”

รอสซี่ และ ลอเรนโซ มีความสัมพันธ์ที่ไม่สู้นัก ตลอดช่วงเวลาที่ทำงานร่วมกันในพิต ยามาฮ่า ทว่านักบิดจอมเก๋าอิตาเลียน กลับเป็นคนที่ผลักดันอย่างหนักให้ต้นสังกัดดึงอดีตทีมเมทมาร่วมงานในปีนี้

“สำหรับผม ฮอร์เก สมบูรณ์แบบต่อเรา” รอสซี่ เผยสั้นๆ

“เพราะเหนือสิ่งอื่นใด ผมพยายามผลักดันอย่างหนักให้ ลิน ยาร์วิส และ ยามาฮ่า เจรจากับ ฮอร์เห ผมคิดว่ามันคือการตัดสินใจที่ชาญฉลาด”

“บางทีคนอื่นอาจสังสัยในตัวเขา เพราะปีที่ผ่านมา ฮอร์เก ประสบปัญหากับ ฮอนด้า แต่ผมมักพูดกับทีมเสมอว่า แค่เพียง 1 วันในการลงบิด M1 เขาก็สามารถที่จะคืนฟอร์มเก่งได้ และมันคือความจริง”

“สำหรับเรามันสำคัญมาก เพราะตอนนี้ใน โมเดิร์น โมโตจีพี จำเป็นมากที่จะต้องมีทีมทดสอบที่ดี สิ่งนั้นจะสามารถดึงข้อมูล และสิ่งต่างๆ  แต่คุณก็ต้องมีนักบิดทดสอบที่มีศักยภาพด้วย เขาต้องมีความเร็ว และสามารถทำเวลาต่อรอบที่ดีได้ด้วยเช่นกัน” รอสซี่ทิ้งท้าย