​“ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม” ยอดทีมแข่งรถจักรยานยนต์ของไทย สานต่อความสำเร็จเกมมอเตอร์สปอร์ตในปี 2020 ประกาศส่ง “เคเคซัง” เขมินท์ คูโบะ และ “ต๋ง” พีรพงศ์ บุญเลิศลุยศึก ซีอีวี โมโตทู พร้อมดัน “เขมินท์” ลงบิดไวด์การ์ด โมโตทู ชิงแชมป์โลก 3-4 สนามตั้งเป้าดันขึ้นสู่ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ในอนาคต ขณะที่เกมระดับเอเชียมีการปรับทัพใหญ่ “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ จับคู่ “ตี” อนภาพ ซามูล ควบรถแข่ง YZF-R1M ล่าแชมป์คลาส ASB1000 ซีซี ด้าน “โฟลท” รัฐพงษ์​ วิไลโรจน์ ถอยลงมาป้องกันแชมป์ ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ให้กับทีม

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด แถลงข่าวนโยยายมอเตอร์สปอร์ตประจำปี 2020 เมื่อวันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ภายใต้การจับตามองของแฟนมอเตอร์สปอร์ตไทย โดยมี นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และ นายธีระพงษ์ โอภาสกรกุล ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่ายกีฬายานยนต์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยถึงแนวทางสำหคัญของทีมในปี 2020

ไฮไลต์ของทีมในฤดูกาล 2020 คือการส่ง 2 นักบิดดาวรุ่งอย่าง “เคเคซัง” เขมินท์ คูโบะ และ “ต๋ง” พีรพงศ์ บุญเลิศ เข้าร่วมแข่งขันในศึก ซีอีโว โมโตทู ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ 2020 แบบเต็มฤดูกาล ภายใต้สังกัด วีอาร์46 มาสเตอร์แคมป์ ทีม โดยนับเป็นปีที่ 2 ที่นักบิดไทยลงแข่งขันแบบเต็มฤดูกาลในรายการนี้

โดย เขมินท์ ที่สร้างผลงานอย่างโดดเด่นมในฤดูกาลที่ผ่านมา ได้รับโอกาทองด้วยการคว้าสิทธิ์ไวด์การ์ดลงบิดในศึก โมโตทู เวิลด์ แชเมปี้ยนชิพ 2020 ในประเทศไทย รายการ โออาร์ ไทยแลนด์ กรังปรีซ์ ระหว่างวันที่ 20-22 มีนาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ขณะเดียวกัน ยามาฮ่า ยังวางเป้าหมายให้ลงบิดไวด์การ์ดอีก 3-4 สนามในศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ของสนามในทวีปยุโรป

นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้กล่าวถึงนโยบายและแนวทางในการพัฒนาทีมแข่งของยามาฮ่าว่า “ในปีนี้ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ได้วางแผนในการพัฒนาและต่อยอดจากความสำเร็จของทีมแข่ง ทั้งในระดับประเทศ, ระดับเอเชีย และระดับยุโรป ไปสู่เกมการแข่งขันระดับโลกอย่าง โมโตจีพี โดยเริ่มจากการเฟ้นหานักแข่งหน้าใหม่ที่มีแววและฝีมือจากการแข่งขัน ยามาฮ่า อาร์15 ไทยแลนด์ ชาเลนจ์ เพื่อนำมาฝึกอย่างเป็นระบบพร้อมให้การสนับสนุนให้ร่วมการแข่งขันในระดับที่สูงขึ้นก่อนจะก้าวเข้าสู่ทีมใหญ่ต่อไป”

“สำหรับในส่วนของทีมงาน ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม เราได้ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขัน 2 รายการหลัก คือ การแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย รุ่น ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี และการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชียโรดเรชซิ่ง แชมป์เปี้ยนชิพ ซึ่งในปีที่ผ่านเราสามารถคว้าแชมป์รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี มาครองและเป็นการคว้าแชมป์ 2 ปีติดต่อกันอีกด้วย โดยในปีนี้เราจะมุ่งเน้นไปที่รุ่น เอเซียซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี และรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี มากขึ้น ส่วนรุ่น เอเชีย โปรดักช์ชั่น 250 ซีซี นั้น จะมุ่งเน้นการพัฒนาให้ทีมซับพอร์ทของยามาฮ่าที่มีความสามารถได้มีโอกาสก้าวเข้ามาสู่เกมในระดับอินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักให้กับทีมยามาฮ่าต่อไปในอนาคต”

“ส่วนการแข่งขันทางฝั่งยุโรปนั้น เราก็ยังเฟ้นหานักแข่งดาวรุ่งที่มีฝีมือเพื่อส่งไปร่วมแข่งขันรายการ เอฟไอเอ็ม ซีอีวี โมโต2 แชมป์เปี้ยนชิพ ภายใต้ความร่วมมือกับทาง วีอาร์46 มาสเตอร์แคมป์ ซึ่งเป็นทีมในสังกัดของ วาเลนติโน่ รอซซี่ แชมป์โลก 9 สมัย เพื่อเป็นการผลักดันให้นักแข่งไทยก้าวไปสู่เวทีระดับโลก เพราะเป้าหมายสำคัญของยามาฮ่าคือ ต้องการสร้างนักแข่งไทยสู่เวทีระดับโลกอย่างการแข่งขันโมโตจีพี ซึ่งเราวางแผนไว้ว่าหากนักแข่งสามารถทำผลงานได้ดี เราจะร่วมมือกับทางยามาฮ่าประเทศญี่ปุ่น เพื่อผลักดันนักแข่งไทยยามาฮ่าเข้าร่วมการแข่งขันในรายการโมโตจีพีเต็มฤดูกาลต่อไปในอนาคต”

ขณะที่ในรายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2020 ยอดทีมแข่งไทยอย่าง ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ได้มีการปรับทัพนักบิดครั้งงใหญ่ โดยในคลาส เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี (ASB1000) จะส่ง “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ จับคู่กับ “ตี” อนุภาพ ซามูล ลงบิดด้วยรถแข่ง YZF-R1M ลงล่าแชมป์ในปีนี้ พร้อมกับขยับให้ “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ อดีตแชมป์ ซูเปอร์สปอร์ต เอเชีย ในปี 2018 ลงมาบิดล่าแชมป์ในคลฃาส ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ในฤดูกาล 2020

นายธีระพงษ์ บอสใหญ่ของ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม กล่าวว่า “สำหรับการแข่งขันรายการชิงแชมป์เอเชียรายการ เอฟไอเอ็ม เอเซีย โรดเรซซิ่ง แชมป์เปี้ยนชิพ เรายังคงส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันตลอดทั้งฤดูกาล ซึ่งในปีนี้เราส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขัน 2 รุ่น คือ รุ่น เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี โดยในปีนี้เราเลือกใช้รถ Yamaha YZF-R1M 2020 เพื่อใช้ในการพัฒนาและแข่งขันไปพร้อมๆ กับทีมแข่งชั้นนำของยามาฮ่าทั้งที่ประเทศญี่ปุ่นและที่ยุโรป และในปีนี้เราได้มีแผนการพัฒนาทีมช่าง โดยเฉพาะในส่วนของเรซเอ็นจิเนียร์ที่เป็นทีมวิศวกรไทยทั้งหมดที่รับการฝึกฝนเทียบเท่าระดับสากล เน้นสร้างบุคลากรทางด้านเทคโนโลยีนี้ ซึ่งเรามีเป้าหมายและความมุ่งมั่นที่จะทำผลงานอย่างเต็มที่ตลอดทั้งฤดูกาล ส่วนอีก 1 รุ่นก็คือ รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เราก็ยังคงใช้รถ Yamaha YZF-R6 ซึ่งในปีนี้ถือว่าเป็นงานที่ท้าทายมาก”