ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลกจาก เมอร์เซเดส เผยว่าเขาแทบ “หยุดหายใจ” ในรอบสุดท้ายก่อนคว้าชัยชนะ บริติช กรังด์ปรีซ์ ทั้งที่ “ยางหน้าซ้ายแตก” พร้อมกับเชื่อว่าเป็นสาเหตุมาจากชิ้นส่วน “โลหะ” จากรถแข่งคันอื่นที่กระจายอยู่บนแทร็ก ซิลเวอร์สโตน

แฮมิลตัน ออกนำแบบม้วนเดียวจบที่ ซิลเวอร์สโตน ซึ่งเป็นโฮมเรซของเขา ทว่าสิ่งที่น่าสนใจและหวาดเสียวสำหรับแฟนๆ คือการที่เขาผ่านธงหมากรุกทั้งที่ยางหน้าซ้ายแตก

ความเสียหายของยางทำให้ แฮมิลตัน ต้องชะลอความเร็วลงในรอบสุดท้าย แต่เขาก็ยังมีระยะห่างมากพอที่จะเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก (30 วินาที) เพราะ แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น ถูกเรียกเข้าพิตในรอบรองสุดท้าย

แฮมิลตัน เข้าเส้นชัยเหนือ เวอร์สแท็พเพ่น 5 วินาที พร้อมกับคว้าชัยชนะ 3 สนามติดต่อกันในปีนี้ พร้อมกับเผยแบบติดตลกว่า “หัวใจแทบหยุดเต้น” ในรอบสุดท้าย

เมอร์เซเดส เผยว่าจะต้องมีการตรวจสอบความล้มเหลวของยาง หลังจากที่เกิดปัญหาคล้ายกันของ วัลเตรี บ็อตตาส และ คาร์ลอส ซายน์ซ ของ แม็คลาเรน

เมื่อถามถึงวิธีการบริหารยางในการแข่งขัน แฮมิลตัน กล่าวว่า เขาไม่เคยรู้สึกถึงความเสี่ยงใดๆ และคิดว่ายางฮาร์ดของ พิเรลลี ยังเหลืออายุการใช้งานอีกมากพอ

“พูดตามตรงผมคิดว่าผมขับได้ดีจริงๆ ผมบริหารยางให้ดีที่สุดเท่าที่ผมทำได้” แฮมิลตัน อธิบาย

“วัลเตรี เค้นหนักมากในช่วงต้นของรันที่ 2 หลังจากเปลี่ยนมาใช้ยางฮาร์ด ดังนั้น ในบางจุดที่ผมต้องเซฟยาง ผมจึงต้องเค้นหนักกว่าปกติ เพราะต้องบริหารระยะห่างจากเขา เพื่อไม่ให้ วัลเตรี สามารถใช้ DRS ได้”

“เขามี เรซเพซ ที่ดีในวันนี้ ผมรู้ดีในจุดนี้ แต่เขาก็ไปสู่จุดที่ยางเสื่อมเร็วขึ้น เพราะผมเห็นได้ว่าเขาไม่ได้บริหารจัดการยางหน้าเลย จากนั้นเราจึงเห็นระยะห่างของเขากับผมมากขึ้น มันทำให้ผมขับได้สบายกว่าเดิม”

“ตอนนั้นผมรู้สึกว่า ยางยังเหลือพอให้แข่งจบ”

ทั้งนี้ แฮมิลตัน แสดงความเห็นว่าเขามั่นใจว่าชิ้นส่วนบางอย่างบนแทร็ก คือสาเหตุของความล้มเหลวของยาง สำหรับนักขับหลายคน ซึ่งน่าจะมีจากชิ้นส่วนรถแข่งของ คิมิ ไรค์โคเน่น จาก อัลฟา โรมิโอ

ไรค์โคเน่น สูญเสีย “วิงหน้”า ไปครึ่งหนึ่ง ก่อนที่ยางของ แฮมิลตัน จะเริ่มได้รับความเสียหาย จากการที่มีเศษซากบางส่วนกระจายอยู่บนแทร็ก ซึ่งเป็นจุดที่ อเล็กซ์ อัลบอน ชนกับ เควิน แม็กนุสเซ่น รวมถึงจุดที่ ดานีล ควียาท ชนไปก่อนหน้านี้

“ผมเชื่อว่ามันอาจจะเป็นเศษชิ้นส่วนรถแข่ง”

“มันมีเศษซากเต็มไปหมดบนแทร็ก มีอยู่คันหนึ่งข้างหน้าผม น่าจะเป็น คิมิ ที่วิงหน้าเสียหายและหลุดออกมาตรงหน้าผมอยู่ในรอบหนึ่ง”

“แม้เซฟตี้คาร์จะออกมาวิ่งนำ แต่ผมคิดว่าพวกเศษชิ้นส่วนและโลหะบางอย่าง ไม่น่าจะทำความสะอาดออกได้หมด”

“จริงๆ แล้งยางทำงานได้ดีมาก คือมันสามารถไปถึงจุดที่ผมสามารถเค้นเพื่อทำเวลาต่อรอบที่ดีได้ รวมถึงการบริหารได้อย่างเต็มที่ จนมาถึงจุดที่โชคร้ายจริงๆ นั่นคือยางเสียหาย”

“เราจะก้าวไปข้างหน้าและตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อดูว่าจะทำได้ดีกว่าเดิมหรือไม่ แต่เอาจริงๆ นะ ผมว่าทุกคนก็เห็น เรซเพซ ของผม และการจัดการยางที่ยอดเยี่ยมของผมเองด้วย”