ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม เปิดสาเหตุไม่ส่งทีมโรงงานลงแข่งขันในศึกซูเปอร์ไบค์ชิงแชมป์ประเทศไทย พร้อมพลิกบทบาทในวงการมอเตอร์สปอร์ต ด้วยการผลักดันโครงการใหญ่ “ทีม เรซซิ่ง เซอร์วิส” ส่งบุคลากรจากทีมใหญ่ พร้อมข้อมูล และความรู้ในการทำงานของทีม ถ่ายทอดสู่ทีมแซ็ตเทิลไลต์ หวังสร้างมาตรฐานการทำงานแบบมืออาชีพให้ทีมแข่งไทย และผลักดันขึ้นสู่เรซระดับเอเชีย

“ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม” เดินหน้าสานต่อนโยบายเกมความเร็วในทุกระดับ จัดทัพทีมเรซซิ่ง เซอร์วิส ยกมาตรฐานทีมแข่งค่ายยามาฮ่า บนเวทีความเร็วชิงแชมป์ประเทศไทยรายการ OR BRIC Superbike Championship และ R2M Thailand Superbike Championship พร้อมปั้นนักบิดดาวรุ่งขึ้นประดับวงการความเร็ว ตามรอยนักบิดรุ่นพี่ที่ขึ้นไปโลดแล่นเก็บเกี่ยวประสบการณ์บนเวทีความเร็วระดับโลกอย่าง FIM CEV Moto2 European Championship

นายธีระพงษ์ โอภาสกรกุล บอสใหญ่ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม เปิดเผยว่า วงการความเร็วโดนวิกฤติโควิด-19 เล่นงานอย่างหนัก เช่นเดียวกับทุกภาคส่วนที่ต่างได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่างๆตามมา เพื่อรองรับและบรรเทาผลกระทบในช่วงวิกฤติที่ผ่านมา ก่อนที่สถานการณ์จะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลให้วงการมอเตอร์สปอร์ตสามารถขยับตัว และกลับมาทำการแข่งขันได้อีกครั้ง ภายใต้มาตรการเข้มด้านความปลอดภัย รวมถึงเกมความเร็ว 2 ล้อทางเรียบในประเทศไทยด้วยเช่นกัน

“ในปีนี้ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ยังคงยืนยันเดินหน้าสานต่อความสำเร็จบนเวทีความเร็ว หลังจากที่ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และคว้าแชมป์ในสังเวียนความเร็วระดับประเทศ รวมถึงการแข่งขันในระดับทวีปไปจนถึงการชิงชัยบนเวทีระดับโลก สร้างความแข็งแกร่งและประสบการณ์ให้กับนักแข่ง รวมถึงบุคลากรในทีมทุกภาคส่วน ที่สามารถเรียนรู้และขยับมาตรฐานขึ้นไปอยู่ในระดับแถวหน้าของทวีปเอเชีย”

“แม้ในปีนี้เราจะไม่ส่งนักบิดทั้ง 2 คนลงแข่งขันในรายบการ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ไบค์ ทั้งที่ บุรีรัมย์ และ ไทยแลนด์ เซอร์กิต แต่การทำงานทุกอย่างยังคงเป็นรูปแบบทีมอย่างชัดเจน โดยทั้ง อนุชา นาคเจริญศรี และ เฉลิมพล ผลไม้ ยังคงเป็นนักบิดทดสอบของทีม ขณะเดียวกันการส่งทีมเซอร์วิสเข้ามาช่วยป้อนข้อมูลให้กับทีมแซ็ตเทิลไลต์ มีเป้าหมายสำคัญคือการยกระดับทีมแข่งอิสระให้มีระบบการทำงานที่สอดคล้องกับทีมโรงงาน และเรามีแผนที่จะผลักดันให้พวกเขามีศักยภาพพอที่จะออกไปแข่งขันในรายการระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ”

ทว่า ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ได้พลิกบทบาทมาไล่ล่าความสำเร็จในรูปแบบของ RACING SERVICE ให้การสนับสนุนเหล่านักแข่งและทีมแข่งที่ใช้รถ Yamaha R-Series ได้แก่ Yamaha YZF-R1, Yamaha YZF-R6, Yamaha YZF-R3 และ Yamaha YZF-R15 ในการแข่งขันทั้ง 2 รายการใหญ่ของเมืองไทยอย่าง OR BRIC Superbike Championship และ R2M Thailand Superbike Championship

ซึ่งเป็นการขยับตัวครั้งสำคัญ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การยกระดับทีมแข่งและนักแข่งที่ร่วมการแข่งขันในประเทศไทย ด้วยประสบการณ์ของ ช่างเครื่อง, Race Engineer และโค้ช ที่เก็บเกี่ยวจากการแข่งขันในระดับอินเตอร์ของ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม จึงได้คัดสรรทีมงาน Yamaha Thailand Racing Service มาสนับสนุนเหล่านักแข่งและทีมแข่งที่ร่วมทำการชิงชัยในรายการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย ภายใต้ชื่อทีมเรซซิ่ง เซอร์วิส

ประกอบด้วย นายภากร โรจนรุ่งทวี ผู้จัดการส่วนกีฬายานยนต์, นายวิชัย ไชยประภา ผู้เชี่ยวชาญพิเศษแผนกกีฬาแข่งรถ, นายพัฒนสิษฐ์ ทัพวงศ์ Race Engineer Yamaha Thailand Racing Team, นายวรรณศักดิ์ ทรัพย์คงดี Race Engineer Yamaha Thailand Racing Team และ นายพัชรกร วัฒนพนม Race Engineer Yamaha Thailand Racing Team

รวมถึง นายธานี ทองมนต์ Mechanic Yamaha Thailand Racing Team, นายศุภกิจ แก้วน้อย Mechanic Yamaha Thailand Racing Team, นายภูวดล เลิศบุญมี Mechanic Yamaha Thailand Racing Team, นายจุฑาวุฒิ แย้มทรัพย์ Mechanic Yamaha Thailand Racing Team และนายเดชา ไกรศาสตร์ ในบทบาทของ Coach Yamaha Thailand Racing Team

แนวทางการพัฒนานักบิดดาวรุ่งเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ให้ความสำคัญและเดินหน้าสานต่อมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้เป็นโอกาสของ 2 นักบิดดาวรุ่งอย่าง นายนิติพงษ์ แสงสว่าง อายุ 18 ปี และนายกฤตภัทร เขื่อนคำ อายุ 15 ปี ที่ลงเก็บเกี่ยวประสบการณ์บนเวทีความเร็วชิงแชมป์ประเทศไทย ในรุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 เพื่อปูทางไปสู่เกมความเร็วในระดับอินเตอร์

ตามรอยนักบิดรุ่นพี่อย่าง เขมินท์ คูโบะ และ พีรพงศ์ บุญเลิศ ที่ไปโลดแล่นอยู่บนเวทีเอฟไอเอ็ม ซีอีวี โมโตทู ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ ในฤดูกาลนี้ ภายใต้สังกัดวีอาร์โฟร์ตี้ซิกซ์ มาสเตอร์ แคมป์ ทีม ทั้งยังสามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่น บิดคว้าอันดับท็อปไฟว์ได้จากการชิงชัยในสนามล่าสุดที่ สเปน ตอกย้ำแนวทางที่ชัดเจนของ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ที่พร้อมให้การสนับสนุนและพัฒนาบุคลากรด้านความเร็วในทุกระดับและทุกบทบาท