[F1] ชนก่อนแชมป์! “แฮมิลตัน” ทิ่ม “เวอร์สแท็พเพ่น” ก่อนเข้าวินโฮมเรซ

ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลก 7 สมัยจาก เมอร์เซเดส คัมแบ็กกลับมาคว้าชัยชนะได้อีกครั้งในศึกฟอร์มูล่าวันสนาม 10 บริติช กรังด์ปรีซ์ หลังชน แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น จนรีไทร์ในรอบแรกโดนปรับ 10 วินาที ก่อนล่า ชาร์ลส์ เลอแคลร์ อย่างดุเดือดช่วงท้ายเรซ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ ซิลเวอร์สโตน

ศึกฟอร์มูล่าวัน 2021 สนาม 10 รายการ บริติช กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต สหราชอาณาจัก ชิงชัยทั้งสิ้น 52 รอบสนาม

โพลในเรซนี้เป็นของ แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น นักขับดัตช์จ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพจาก เรดบูลล์ เรซซิ่ง ขนาบข้างด้วย ลูอิส แฮมิลตัน และ วัลเตรี บ็อตตาส คู่หู เมอร์เซเดส ในกริดที่ 2-3 ส่วน เซอร์จิโอ เปเรซ ต้องออกตัวจากพิตเลน

ออกสตาร์ทเรซด้วยการขยับขึ้นนำอย่างรวดเร็วของ เวอร์สแท็พเพ่น ทว่าจุดเปลี่ยนของ บริติช จีพี ก็อยู่เพียงในรอบแรก เมื่อ แฮมิลตัน ชนเข้ากับนักขับดัตช์ จนต้องออกจากเรซไป ส่งผลให้กรรมการตีธงแดงทันที

จากเหตุการณ์ดังกล่าว แฮมิลตัน โดนลงโทษบวกเวลา 10 วินาที ก่อนกลับมาดวลกันต่อโดยมี ชาร์ลส์ เลอแคลร์ นักขับโมนาโกจาก เฟอร์รารี่ เป็นหัวแถว ตามด้วย แฮมิลตัน และ บ็อตตาส

รอบที่ 19 เปเรซ ที่ขยับขึ้นมาถึงอันดับ 12 ตัดสินใจเข้าพิตเพื่อทำอันเดอร์คัตกลุ่มหน้า ขณะ แฮมิลตัน ไล่กดดัน เลอแคลร์ เพื่อชิงหัวแถวอย่างหนัก เข้าใกล้เหลือ 0.8 วินาที แต่ก็โดนฉีกหนัออกไปอีก

รอบที่ 21 แดเนียล ริคคิอาร์โด นักขับออสซี่จาก แม็คลาเรนที่รั้งอันดับ 5 เข้าพิตครั้งแรก ขณะที่ทีมเมทอย่าง แลนโด้ นอร์ริส ตามเข้ามาในรอบที่ 23 แต่เจอปัญหาพิตเวิร์คช้าไป 6 วินาที

รอบที่ 28 แฮมิลตัน เข้าพิตครั้งแรกและรับโทษบวกเวลาด้วยการจอดนิ่งในพิต 10 วินาที ก่อนออกมาลุยต่อในอันดับ 5 ขณะ เฟอร์รารี่ เรียก คาร์ลอส ซายน์ซ เข้าพิตก่อนและร่วงไปถึงอันดับ 6 เพราะเจอปัญหาในการเปลี่ยนล้อหน้าซ้าย

รอบที่ 31 แฮมิลตัน ขยับแซง นอร์ริส ขึ้นมารั้งอันดับ 3 และต้องลากยาวไปถึงรอบที่ 39 เปเรซ เข้าพิตอีกครั้งจนร่วงลงไปถึงอันดับ 16 ขณะ แฮมิลตัน ไล่บี้ บ็อตตาส ก่อนแซงขึ้นรั้งอันดับ 2 ในรอบที่ 41

รอบที่ 46 แฮมิลตัน ร่นระยะห่างจาก เลอแคลร์ เหลือเพียง 3.0 วินาที ขณะที่เหลือการแข่งขันเพียง 6 รอบเท่านั้น และยังคงร่นระยะห่างเข้าไปได้อย่างต่อเนื่อง

3 รอบสุดท้าย แฮมิลตัน เปิดเกมล่า เลอแคลร์ อย่างหนักด้วยระยะห่างเหลือเพียง 1 วินาทีเท่านั้น ก่อนเข้าระยะใช้ DRS ได้ ก่อนจะแซงขึ้นเป็นผู้นำได้สำเร็จในรอบที่ 50

จบการแข่งขันสุดดราม่า 52 รอบสนาม แฮมิลตัน กลับมาผงาดคว้าชัยชนะได้อีกครั้ง เหนือ เลอแคลร์ อันดับ 2 อยู่ 3.871 วินาที ขณะอันดับ 3 เป็นของ บ็อตตาส ตามหลัง 11.125 วินาที

ผลการแข่งขัน บริติช กรังด์ปรีซ์ 👇👇👇