[MotoGP] สตีเรียนจีพี เดือด! “มาร์ติน” คว้าชัยแรกในชีวิตหลังธงแดง

ฮอร์เก มาร์ติน รุกกี้ชาวสแปนิชจาก พรามัค เรซซิ่ง ผงาดคว้าชัยชนะ โมโตจีพี ครั้งแรกในชีวิต หลังบิดนำม้วนเดียวจากโพลของ สนาม 10 ที่ เรดบูลล์ ริง เหนือ โจอัน เมียร์ แชมป์โลกจาก ทีม ซูซูกิ เอ็คสตาร์ และ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร จ่าฝูงจาก มอนสเตอร์ ยามาฮ่า หลังจบเรซที่เต็มไปด้วยเหตุการณ์ดราม่า!

ศึก โมโตจีพี 2021 สนาม 10 รายการ สตีเรียน กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคมที่่ผ่านมา ที่ สนาม เรดบูลล์ ริง ประเทศออสเตรีย ระยะทางต่อรอบ 4.3 กิโลเมตร ชิงชัยทั้งสิ้น 29 รอบสนาม ภายใต้สภาพแทร็กแห้งหลังฝนตกงมาในช่วงเช้า แต่ตอนบ่ายอากาศสดใสอีกครั้ง

โพลในเรซนี้เป็นของ ฮอร์เก มาร์ติน รุกกี้สแปนิชจาก พรามัค เรซซิ่ง ขนาบข้างด้วย ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า นักบิดอิตาเลียนจาก ดูคาติ เลโนโว ทีม และ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร จ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพจาก มอนสเตอร์ ยามาฮ่า ในกริดที่ 2-3

ออกสตาร์ทเรซด้วยความเข้มข้นโดยหลังผ่านรอบแรก บันยาญ่า ขึ้นเป็นผู้นำ ตามด้วย มาร์ติน ขณะที่ กวาร์ตาราโร ที่แม้จะร่วงลงไปถึงอันดับ 6 แต่ยังไต่ขึ้นมารั้งอันดับ 3 ได้อีกครั้งในรอบที่ 2 ขณะ โจอัน เมียร์ แชมป์โลกจาก ทีม ซูซูกิ เอ็คสตาร์ ออกตัวดีขึ้นมาเป็นอันดับ 4 ตามด้วย มาร์ค มาร์เกซ นักบิดสแปนิชจาก เรปโซล ฮอนด้า ขยับขึ้นมารั้งอันดันดับ 5

อย่างไรก็ดี จุดเปลี่ยนสำคัญของเรซเกิดขึ้นในรอบที่ 3 เมื่อ แดนี เปโดรซ่า นักบิดไวด์การ์ดจาก เคทีเอ็ม พลาดล้มที่โค้ง 3 ก่อนที่รถของ ลอเรนโซ ซาวาดอรี นักบิดอิตาเลียนจาก พรามัค เรซซิ่ง จะตามเข้ามาชนซ้อมจนเกิดไฟลุกท่วม จนกรรมการต้องประกาศธงแดงทันที

เกมกลับมาเริ่มกันใหม่หลังใช้เวลาเคลียร์แทร็กกว่า 30 นาที โดยจะรีสตาร์ทกัน 27 รอบสนาม ด้วยอันดับสตาร์ทแบบเดิมจากกริดตอนเริ่มต้นเรซ… ทว่า มาเวริค บีญาเลส เจ้าของกริดที่ 9 เจอปัญหาใหญ่เมื่อรถแข่งสตาร์ทไม่ติด จนต้องเข็นกลับเข้าพิตเลน และต้องออกตัวจากปากทางพิตเลน

รีสตาร์ทอีกครั้งด้วยการขยับขึ้นนำของ แจ็ค มิลเลอร์ ที่พุ่งมากจากกริดที่ 4 ตามด้วย มาร์ติน ในอันดับ 2 ตามด้วย เมียร์ และ กวาร์ตาราโร ในอันดับ 3 และ 4

อย่างไรก็ดี รอบต่อมา เมียร์ ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ส่วน บันยาญ่า ร่วงลงไปถึงอันดับ 8 ในรอบที่ 2 เช่นเดียวกับ มาร์ค มาร์เกซ ที่ปะทะกับ อเล็กซ์ เอสปาร์กาโร เป็นครั้งที่ 2 ในโค้งแรก โดยเจ้าตัวหล่นไปถึงอันดับ 13 ขณะที่ อเล็กซ์ มาร์เกซ และ ทาคาอากิ นาคากามิ คู่หู แอลซีอาร์ ฮอนด้า ไต่ขึ้นมาถึงอันดับ 6-7

อย่างไรก็ดี ในรอบที่ 4 มาร์ติน เจ้าของโพลขยับขึ้นมาเป็นผู้นำได้สำเร็จ โดยมี เมียร์ ไล่บี้อย่างหนักตามด้วย มิลเลอร์ ที่ร่วงลงไปเป็นอันดับ 3 ส่วน กวาร์ตาราโร เอาตัวรอดอยู่ในอันดับ 4 โดยมี โยฮันน์ ซาร์โก ไล่บี้อย่างหนัก

รอบที่ 5 อเล็กซ์ เอสปาร์กาโร นักบิดสแปนิชจาก อพริเลีย ต้องนำรถออกจากการแข่งขัน เพราะมีอาการบาดเจ็บที่สีข้างด้านขวา จากการปะทะกับ มาร์ค มาร์เกซ ในรอบแรกถึง 2 ครั้ง (สตาร์ทครั้งแรก และรีสตาร์ท)

รอบที่ 7 กวาร์ตาราโร ไต่ขึ้นมารั้งอันดับ 3 ได้อีกครั้ง ส่วนการไล่บี้ผู้นำเป็นการเปิดเกมล่าของ เมียร์ ที่บดอย่างหนักเข้าใส่ มาร์ติน จนกระทั่งถึงช่วงครึ่งทางของเรซ ขณะที่ มิเกล โอลิเวียร่า นักบิดโปรตุกีสผู้ชนะปีที่แล้วจาก เคทีเอ็ม รูดลงไปถึงอันดับท้ายเพราะมีปัญหากับรถแข่ง ก่อนจะต้องรีไทร์จากเรซในเวลาต่อมา

10 รอบสุดท้าย มิลเลอร์ ที่พยายามไล่เอาอันดับ 3 จาก กวาร์ตาราโร อย่างหนัก ต้องพลาดล้มในโค้ง 7 ออกจากการแข่งขันอย่างน่าเสียดาย

จบการแข่งขัน 27 รอบสนามหลังรีสตาร์ทท่ามกลางเหตุการณ์ดราม่า ชัยชนะเป็นของ มาร์ติน รุกกี้ชาวสแปนิชวัย 23 ปี จาก พรามัค เรซซิ่ง ด้วยเวลา 38 นาที 7.879 วินาที เหนือ เมียร์ อันดับ 2 อยู่ 1.548 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ กวาร์ตาราโร ตามหลัง 9.632 วินาที

ขณะที่อันดับ 4 เป็นของ แบรด บินเดอร์ และตามด้วย ทาคาอากิ นาคากามิ ในอันดับ 5 ส่วนอันดับ 6-7 เป็นของ โยฮันน์ ซาร์โก ตามด้วย อเล็กซ์ รินส์ ด้าน มาร์ค มาร์เกซ ไต่ขึ้นมาคว้าอันดับ 8 ตามด้วยน้องชายอย่าง อเล็กซ์ มาร์เกซ และ แดนี เปโดรซ่า

ผลการแข่งขัน