เซบาสเตียน โอกิเยร์ ควงคู่ จูเลียน อิงกราสเซีย โค-ไดรเวอร์ คู่ใจ ผงาดขึ้นครองบัลลังก์แชมป์โลกสมัยที่ 8 หลังพลิกเอาชนะ เอลฟิน อีแวนส์ แชมป์เก่าเพื่อนร่วมสังกัดโตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ดับเบิ้ลยูอาร์ที ในเกมนัดชิงดำที่ มอนซ่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ศึกเวิลด์ แรลลี่ แชมเปี้ยนชิพ 2021 สนามที่ 12 ของฤดูกาล ดวลความเร็วระหว่างวันที่ 18-21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ณ มอนซ่า ประเทศอิตาลี ชิงชัยบนสังเวียนทางดำแบ่งการแข่งขันเป็น 16 ช่วงทดสอบพิเศษ รวมระยะทางทั้งสิ้น 253.18 กิโลเมตร ในรายการฟอรัมเอท เอซีไอ แรลลี่ มอนซ่า

เป็นทางด้าน เอลฟิน อีแวนส์ แชมป์เก่าจาก โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ดับเบิ้ลยูอาร์ที ที่ขึ้นเป็นผู้นำหลังซิ่งจบการแข่งขันในวันแรก เร็วกว่า เซบาสเตียน โอกิเยร์ เพื่อนร่วมสังกัดและผู้ท้าชิงแชมป์โลก ที่ทำเวลาเข้ามาเป็นอันดับ 2 อยู่ 1.4 วินาที ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ เธียร์รี่ นอยวิลล์ จาก ฮุนได เชลล์ โมบิส ดับเบิ้ลยูอาร์ที ช้ากว่าผู้นำ 21.6 วินาที

อย่างไรก็ดี โอกิเยร์ สามารถรีดฟอร์มเก่งได้ในวันที่ 2 ของการแข่งขัน ควบรถแข่งยาริส ดับเบิ้ลยูอาร์ซี ทะยานขึ้นเป็นผู้นำในวันที่ 2 ของการชิงชัย เบียด อีแวนส์ ลงไปรั้งอันดับ 2 ตามหลังทีมเมทเพียง 0.5 วินาที ขณะที่ ดานี่ ซอร์โด้ จาก ฮุนได เชลล์ โมบิส ดับเบิ้ลยูอาร์ที ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 3 ตามหลังหัวขบวน 27.4 วินาที

รวมถึงการแข่งขันในวันที่ 3 ซึ่ง โอกิเยร์ สามารถรักษาผลงานอันร้อนแรงไว้ได้ ก่อนจะจัดการคว้าแชมป์ที่ มอนซ่า ไปครอง หลังซิ่งจบการแข่งขันด้วยเวลารวม 2 ชั่วโมง 39 นาที 08.6 วินาที เร็วกว่า อีแวนส์ ที่จบการแข่งขันด้วยอันดับ 2 ถึง 7.3 วินาที ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ ซอร์โด้ ช้ากว่าแชมป์ 21.3 วินาที

จากผลงานระดับท็อปส่งผลให้ โอกิเยร์ ผงาดขึ้นครองบัลลังก์แชมป์โลกสมัยที่ 8 ได้อย่างยิ่งใหญ่ เก็บไปได้  230 คะแนน เหนือกว่า อีแวนส์ ถึง 23 คะแนน รวมถึง โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ดับเบิ้ลยูอาร์ที ที่รักษาตำแหน่งแชมป์โลกประเภทค่ายผู้ผลิตไว้ได้ หลังเก็บไปได้ 522 คะแนน ทิ้งห่าง ฮุนได เชลล์ โมบิส ดับเบิ้ลยูอาร์ที ถึง 59 คะแนน