แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น นักขับดัตช์จาก เรดบูลล์ เรซซิ่ง ผงาดคว้าแชมป์โลกฟอร์มูล่าวันสมัยแรก หลังพลิกเอาชนะ ลูอิส แฮมิลตัน นักขับอังกฤษจาก เมอร์เซเดส ในศึก อาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ ที่มามี เซฟตี้คาร์ ในช่วง 5 รอบสุดท้าย
ศึก ฟอร์มูล่าวัน 2021 สนามสุดท้าย รายการ อาบู ดาบี กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่ ยาส มารีน่า เซอร์กิต ระยะทางต่อรอบ 5.281 กิโลเมตร ตามเลย์เอาท์ที่ปรับใหม่ ชิงชัยทั้งสิ้น 58 รอบสนาม
โพลในเรซนี้เป็นของ แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น นักขับดัตช์จาก เรดบูลล์ เรซซิ่ง ขนาบข้างด้วยคู่แข่งลุ้นแชมป์โลกอย่าง ลูอิส แฮมิลตัน จาก เมอร์เซเดส
แฮมิลตัน ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยมขยับขึ้นเป็นผู้นำทันที ทว่ากลับมาจังหวะปะทะกันในรอบแรกที่โค้ง 6-7 โดย เวอร์สแท็พเพ่น เสียบเข้าไลน์ในส่งผลให้ แฮมิลตัน บานออกไปก่อนตัดโค้งกลับมาเป็นผู้นำ
เหตุการณ์ดังกล่าวถูกวิจารณ์อย่างหนักทว่า ไมเคิล มาซี เรซไดเร็กเตอร์ และคณะสจ๊วตไม่มีการเรียก “สอบสวนใดๆ” จากเหตุการณ์ดังกล่าว
จากนั้น เวอร์สแท็พเพ่น ถูกทิ้งห่างออกไปและตัดสินใจเข้าพิตก่อน เช่นเดียวกับ แฮมิลตัน ที่ตามเข้าพิตในช่วง 2 รอบต่อมา โดยนักขับอังกฤษต้องโดน เซอร์จิโอ เปเรซ นักขับมือสองของ เรดบูลล์ เรซซิ่ง บดบังอย่างหนัก ชะลอให้ เวอร์สแท็พเพ่น ร่นเข้ามาเหลือเพียง 1 วินาทีเศษๆ เท่านั้น ก่อนที่ แฮมิลตันจะผ่านไปได้ในรอบที่ 21
“เปเรซ นายคือโคตรตำนาน” : เวอร์สแท็พเพ่น กล่าวผ่านวิทยุสื่อสารถึงทีมเมทจังหวะช่วยชลอ แฮมิลตัน จนร่นระยะห่างได้ถึง 5 วินาที
จากนั้น เปเรซ จึงต้องเข้าพิตเพราะยางซอฟท์ฝืนต่อไม่ไหวแล้ว…
รอบที่ 28 มีนักขับต้องออกจากการแข่งขันถึง 2 คน คิมิ ไรค์โคเน่น ต้องอำลาเอฟวันแบบไม่จบเรซเพราะรถแข่งมีปัญหาระบบเบรก เช่นเดียวกับ จอร์จ รัสเซลล์ จาก วิลเลี่ยมส์ ที่มีปัญหาระบบเกียร์
รอบที่ 36 กรรมการสั่งให้มี “เวอร์ชวล เซฟตี้คาร” จากการที่รถแข่งของ อันโตนิโอ จิโอวินาซซี นักขับอิตาเลียนมีปีญหาเกียร์บ็อกซ์ โดยรอบถัดมา เรดบูลล์ ตัดสินใจเรียก เวอร์สแท็พเพ่น เข้าพิตเพื่อเปลี่ยนยางฮาร์ดใหม่อีกครั้ง โดยหวังจะพลิกเกมให้ได้
หลังออกจากพิต เวอร์สแท็พเพ่น ร่นระยะห่างเข้ามาจาก 20 วินาที เหลือเพียง 15 วินาที ด้วยเวลาต่อรอบที่เร็วกว่า แฮมิลตัน ราวรอบละ 0.6 วินาที ขณะที่เหลือการแข่งขัน 18 รอบสนาม
รอบที่ 43 ระยะห่างจาก แฮมิลตัน กับ เวอร์สแท็พเพ่น ลดลงมาเหลือ 14.1 วินาที แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีโอกาสเข้าใกล้ได้เลย
ทว่าในช่วง 5 รอบสุดท้าย เซฟตี้คาร์ ต้องออกมาวิ่งนำเพื่อเคลียร์แทร็กหลังจากที่ นิโคลาส ลาติฟี นักขับแคนาเดียนจาก วิลเลียมส์ ชนเข้าที่กำแพงจังๆ
ขณะที่ เวอร์สแท็พเพ่น และ เปเรซ ถูกเรียกเข้าพิตเพื่อเปลี่ยนใส่ยางซอฟท์มาเพื่อไล่อันดับจาก แฮมิลตัน ซึ่งนั่นคือไพ่ใบสุดท้ายของ คริสเตียน ฮอร์เนอร์ และทีมพิตของ เรดบูลล์
เรซ ไดเร็กเตอร์ สั่งให้มีการปล่อยรถแข่งน็อกรอบขยับแซงผ่าน เซฟตี้คาร์… จนเป็นข้อกังขาของ โตโต้ โวล์ฟ ทีมบอส เมอร์เซเดส อย่างมาก

ผลการแข่งขัน
Cla | # | Driver | Chassis | Engine | Laps | Time | Gap | Interval |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | 33 | Max Verstappen | Red Bull | Honda | 58 | 1:30’17.345 | ||
2 | 44 | Lewis Hamilton | Mercedes | Mercedes | 58 | 1:30’19.601 | 2.256 | 2.256 |
3 | 55 | Carlos Sainz Jr. | Ferrari | Ferrari | 58 | 1:30’22.518 | 5.173 | 2.917 |
4 | 22 | Yuki Tsunoda | AlphaTauri | Honda | 58 | 1:30’23.037 | 5.692 | 0.519 |
5 | 10 | Pierre Gasly | AlphaTauri | Honda | 58 | 1:30’23.876 | 6.531 | 0.839 |
6 | 77 | Valtteri Bottas | Mercedes | Mercedes | 58 | 1:30’24.808 | 7.463 | 0.932 |
7 | 4 | Lando Norris | McLaren | Mercedes | 58 | 1:31’16.545 | 59.200 | 51.737 |
8 | 14 | Fernando Alonso | Alpine | Renault | 58 | 1:31’19.053 | 1’01.708 | 2.508 |
9 | 31 | Esteban Ocon | Alpine | Renault | 58 | 1:31’21.371 | 1’04.026 | 2.318 |
10 | 16 | Charles Leclerc | Ferrari | Ferrari | 58 | 1:31’23.402 | 1’06.057 | 2.031 |
11 | 5 | Sebastian Vettel | Aston Martin | Mercedes | 58 | 1:31’24.872 | 1’07.527 | 1.470 |
12 | 3 | Daniel Ricciardo | McLaren | Mercedes | 57 | |||
13 | 18 | Lance Stroll | Aston Martin | Mercedes | 57 | |||
14 | 47 | Mick Schumacher | Haas | Ferrari | 57 | |||
15 | 11 | Sergio Perez | Red Bull | Honda | 55 | |||
dnf | 6 | Nicholas Latifi | Williams | Mercedes | 50 | |||
dnf | 99 | Antonio Giovinazzi | Alfa Romeo | Ferrari | 33 | |||
dnf | 63 | George Russell | Williams | Mercedes | 26 | |||
dnf | 7 | Kimi Raikkonen | Alfa Romeo | Ferrari | 25 | |||
dnf | 9 | Nikita Mazepin | Haas | Ferrari | 0 |
Respect all round on the podium after an epic title race that will be remembered forever 🏆#AbuDhabiGP 🇦🇪 #F1 @Max33Verstappen @LewisHamilton pic.twitter.com/EDgKox9AoJ
— Formula 1 (@F1) December 12, 2021