[Analysis] วิเคราะห์ “ยามาฮ่า” ทางตรงช้าสุด “เรซเพซ” เหนือใครใน โมโตจีพี

0
5443

“ยามาฮ่า” เป็นรองอย่างมากด้าน “ท็อปสปีด” แม้กระทั่งในการทดสอบทั้ง 2 ครั้งที่ เซปัง และ มันดาลิกา นักบิดของพวกเขาก็ยังเจอปัญหาเดิม แต่ข่าวดีคือ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ยืนยันว่าข่าวดีของแฟนๆ จะมาถึงเร็วๆ นี้ เพราะพร้อมลุยสนามแรกที่ กาตาร์ แล้ว

ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร แชมป์โลก โมโตจีพี จาก มอนสเตอร์ ยามาฮ่า ยอมรับว่า “แฮปปี้” กับความคืบหน้าในการพัฒนารถแข่ง M1 2022 มั่นใจพร้อม 100% หลังจบการทดสอบวันสุดท้ายที่ มันดาลิกา แต่กำลังเจอปัญหาการรีด “เวลาเร็วต่อรอบ” สำหรับการควอลิฟายที่ถึงขีดจำกัดแล้ว

กวาร์ตาราโร จบการทดสอบ พรีซีซัน เทสต์ ของ โมโตจีพี 2022 ที่ มันดาลิกา ด้วยอันดับ 2 เขาทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดในช่วงท้ายวัน 1 นาที 31.074 วินาที ช้ากว่า โปล เอสปาร์กาโร นักบิดสแปนิชจาก เรปโซล ฮอนด้า เพียง 0.014 วินาทีเท่านั้น

นักบิดเฟรนช์แสดงออกอย่างชัดเจนว่ามีปัญหากับ “ท็อปสปีด” ของรถแข่ง M1 2022 ตลอดช่วง พรีซีซัน เทสต์ และยังพูดถึงปัญหาในการ “ทำเวลาสำหรับควอลิฟาย” ว่ามีมากกว่าในปี 2021

กวาร์ตาราโร ช้ากว่าจ่าฝูงแค่ใน เซ็คเตอร์ที่ 1 และ 4 แต่เขาเร็วกว่าในเซ็คเตอร์ที่ 2 และ 3

นั่นจึงเป็น “จุดสำคัญ” ที่ กวาร์ตาราโร ทำงานอย่างหนักในวันอาทิตย์ที่ มันดาลิกา โดยเขาหวังว่า “ผมหวังว่ามันจะดีขึ้นสักหน่อย” จากการลงเทสต์หลายรอบ เพื่อยกระดับการควอลิฟาย

[MotoGP] พร้อม 100% “กวาร์ตาราโร” แฮปปี้ M1 คืบหน้าแต่เจอลิมิต “ควอลิฟาย”

“ใช่ครับ ในช่วงเช้าเรามีความเร็วแต่ยังไม่ดีนัก ทำให้ผมยังไม่ค่อยแฮปปี้” กวาร์ตาราโร กล่าว

“ช่วงบ่ายเงื่อนไขต่างๆ เหมือนเดิม โดยเฉพาะสภาพอากาศ ดังนั้น ผมค่อนข้างพอใจเพราะเราได้ลงทดสอบอีกหลายรอ ซึ่งฟีลลิ่งของผมก็ดีขึ้นมาก”

“แต่ว่าเราไปถึงลิมิตของมันแล้ว (ขีดจำกัด) โชคไม่ดีที่ผมรู้สึกว่าเราไปเจอขีดจำกัดในทุกด้านแล้ว”

“เวลาต่อรอบดีขึ้น แต่ผมคิดว่ามันจะดีได้มากกว่านี้”

“แต่เอาละ… เราจะมาดูกันอีกที ที่ กาตาร์ มันจะเป็นอีกเรื่องราว แต่จากมุมของผม ผมพร้อม 100% แล้ว”

สิ่งหนึ่งที่เป็นสัญญาณสำคัญของ “ยามาฮ่า” คือ “ฟีลลิ่ง” ที่ยอดเยี่ยมของ กวาร์ตาราโร กับการลงวิ่งแบบ “ลองรัน” ด้วย “ยางเก่า” แต่มีบางสิ่งที่ยังไม่ลงตัวกับ “ยางซอฟท์”

“เราต้องรู้ให้ได้ ว่าเป็นเพราะอะไร” นั่นคือสิ่งที่ กวาร์ตาราโร เผยในวันที่ 2 แต่ในวันที่ 3 เขารู้สึกดีขึ้นมาก… จนกระทั่งจบการทดสอบ ทั้งตัวเขาและทีมงานต่างก็ “มีความเห็นตรงกัน” ว่า “สามารถคาดหวังกับเครื่องยนต์ใหม่” ได้มากขึ้น

ด้าน ฟรานโก มอร์บิเดลลี ทีมเมทชาวอิตาเลียน พยายามอย่างหนักในการปรับตัวกับรถแข่ง M1 2022 ซึ่งถือเป็นงานหนักของเขา เพราะคุ้นเคยกับ M1 2019 A-Spec มาตลอด ก่อนจะพลาดบาดเจ็บเข่าในปี 2021

มอร์บิเดลลี ได้รับการโปรโมตขึ้นทีมโรงงานปลายปี 2021 พร้อมกับสภาพร่างกายไม่เต็มร้อยทำให้ไม่สามารถปรับตัวกับรถแข่งคอนเซ็ปต์ใหม่ของ ยามาฮ่า ได้เลย นั่นทำให้เขาต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อปรับตัวเข้าหารถแข่ง M1 2022 ที่เป็น ดีเอ็นเอ ต่อเนื่องตามแนวทางใหม่ของ ยามาฮ่า

สัญญาณที่ดีของ มอร์บิเดลลี มาชัดเจนขึ้นในการทดสอบที่ มันดาลิกา โดยเขาเริ่มปรับตัวกับสนามและค่อยๆ พัฒนาเซ็ตอัพกับทีม ก่อนที่วันสุดท้ายจะมากดเวลาต่อรอบขึ้นมารั้งอันดับ 5 ตามหลังจ่าฝูง 0.3 วินาที

มอร์บิเดลลี ยอมรับว่าเขาลงบิดโดยใช้ล้อหลังมากเกินไป นั่นหมายความว่าเขาไม่ค่อยมีความมั่นใจกับ “กริ๊ป” ที่ล้อหน่า ก่อนจะมาเปลี่ยน “โช็คหน้า” ในวันสุดท้าย และทำผลงานได้ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา

ขณะที่ อันเดรีย โดวิซิโอโซ นักบิดอิตาเลียนจาก WithU Yamaha RNF MotoGP™ Team จบอันดับ 19 บนตารางเวลารวมในการทดสอบที่ มันดาลิกา ตามผู้นำ 0.830 วินาที เขาพลาดล้มรุนแรงในวันเสาร์ รถแข่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก ร่างกายก็บอบช้ำ… ทำให้ในวันสุดท้ายไม่สามารถเค้นหนักได้

ส่วนทีมเมทรุกกี้อย่าง ดาร์ริน บินเดอร์ ดาวรุ่งชาวอาฟริกาใต้ นับเป็นการเริ่มต้นที่ค่อนข้างยาก เขาขยับขึ้นมาจาก โมโตทรี และสิ้นสุดการเทสต์กับ M1 2021 A-Spec ในอันดับสุดท้าย ตามผู้นำถึง 1.989 วินาที