“สนามช้างฯ” จับมือ “โออาร์” ต่อยอดความสำเร็จ ผลักดันศึกสองล้อรายการใหญ่ที่สุดของไทย “โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ 2022” ทัพนักบิดกว่า 200 คน จาก 120 ทีม อัดแน่นดีกรีความดุเดือด 4 สนาม 5 เรซ ตลอดทั้งปี ปรับกติกาให้สนุกเร้าใจยิ่งขึ้น ตอบรับกระแสความนิยมจากคอกีฬาความเร็ว เปิดให้ชมติดขอบสนามภายใต้มาตรการป้องกัน Covid-19 ออกสตาร์ทสนามแรก 6-8 พ.ค.นี้

วันอังคารที่ 19 เมษายน 2565 ที่สโมสรราชพฤกษ์คลับ กรุงเทพฯ: บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จำกัด หรือ BRIC ผู้บริหาร สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ร่วมกับ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ แถลงข่าวการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย “โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ ประจำปี 2565” ภายใต้คอนเซปต์ ANYONE CAN BE A HERO ซึ่งนับเป็นรายการแข่งขันที่ได้รับความนิยมและยิ่งใหญ่ที่สุดของไทยที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย หรือ กกท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ทุกกีฬากลับมาจัด 100% ที่ผ่านมา กกท.พัฒนาการเป็นต้นแบบแนวทางการจัดการแข่งขันงานกีฬาให้สามารถเดินหน้าต่อได้ภายใต้มาตรการการป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 และมาตรฐานการจัดงานที่ดีโดยกีฬามอเตอร์สปอร์ต ก็เป็นอีกหนึ่งกีฬาอาชีพที่สำคัญ มีนักกีฬาไทยสามารถสร้างชื่อเสียงได้ในเวทีระดับโลก

“ในปีนี้เราเตรียมการ ในการจัดการแข่งขันโมโตจีพี ที่จะเกิดขึ้นช่วงวันที่ 30 ก.ย.–2 ต.ค. ถือว่าเป็นงานใหญ่ที่สุด และยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาขีดความสามารถของนักแข่งไทยพร้อมกันไปด้วย โดยเริ่มต้นจากการแข่งขันระดับประเทศ ดังเช่น รายการ OR BRIC SBK ที่ถือเป็นจุดเริ่มของอาชีพนักแข่ง เป็นบันไดก้าวแรก ที่ กกท.เล็งเห็นความสำคัญ และจะผลักดันสนับสนุนอย่างเต็มที่”

นายเนวิน ชิดชอบ ประธาน สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต กล่าวว่า “ในซีซั่นนี้เรามีนักบิดไทยเข้าร่วม OR BRIC Superbike กว่า 200 คน และทีมแข่งกว่า 120 ทีม อีกทั้งยังยกระดับโดยเน้นการประชาสัมพันธ์ไปในหลายประเทศเพื่อเปิดกว้างให้กับนักแข่งและทีมแข่งต่างประเทศได้เข้าร่วมการแข่งขันมากขึ้น เพื่อเดินหน้ายกระดับสู่เรซอินเตอร์ ภายใต้มาตรฐานใหม่ โดยกฎ และกติกาถูกปรับเปลี่ยนเพื่อให้การแข่งขันเป็นไปอย่างสูสีและสนุกยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด ANYONE CAN BE A HERO ใครก็สามารถก้าวขึ้นไปเป็นฮีโร่นักแข่งของไทยได้ หากมีความฝันและมีความมุ่งมั่นเพียงพอ โดยมีอีกหนึ่งก้าวสำคัญสู่เรซระดับอินเตอร์คือ ผู้ชนะเลิศการแข่งขันจะได้รับสิทธิไวลด์การ์ดเข้าร่วมแข่งขันในรายการดังระดับทวีป เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ ประจำปี 2023”

“ที่ผ่านมา สนามช้างฯ ผ่านบททดสอบมาอย่างเข้มข้นนับครั้งไม่ถ้วน และล่าสุดกับความสำเร็จของการจัดงาน เอเชีย โร้ดเรซซิ่งที่ผ่านมา นับเป็นรายการระดับอินเตอร์เนชั่นแนล รายการแรก หลังจากสถานการณ์ โควิด-19 มีนักแข่ง ทีมแข่งกว่า 16 ประเทศที่เข้าร่วมทำการแข่งขัน และจำนวนผู้ชมทั้ง 2 วัน กว่า 8,000 คน ซึ่งการจัดงานเป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่มีคลัสเตอร์ ไม่มีการแพร่ระบาด และสำหรับการแข่งขัน OR BRIC Superbike 2022 ก็ยังคงเน้นมาตรการความปลอดภัยทางสาธารณสุขสูงสุด นักแข่ง ทีมแข่ง และทีมงาน มีการตรวจ ATK ก่อนเข้าสนาม ส่วนผู้ร่วมกิจกรรมทุกคนรวมถึงผู้ชมต้องได้รับวัคซีนครบโดส จึงจะผ่านเข้าไปสู่พื้นที่กิจกรรมได้”

การแข่งขันมีทั้งสิ้น 5 คลาส นำโดยคลาสสูงสุดของประเทศไทย ได้แก่ Super Bike 1000 ซีซี และยังมี Super Stock 1000, Super Sport 600, Super Sport 400 และ Sport Production 400 ซีซี และจัดเต็มเพิ่มเติมความมันส์มากกว่าเดิมในปีนี้ กับการแยกนักแข่งรุ่น Pro ตามประกาศของ TSB Riders Ranking 2022 ใน 3 คลาสหลักออกมาเพื่อความดุเดือดยิ่งขึ้น ได้แก่ Superbike 1000cc. (SB1 Pro), SuperSport 600cc. (SS1 Pro), SuperSport 400cc. (SS1 Pro) เพื่อให้นักแข่งหน้าใหม่ มีโอกาสได้ยืนบนโพเดี้ยมมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีซัพพอร์ตเรซของค่ายยักษ์ใหญ่ Honda Thailand Talent Cup และ Yamaha Series R Cup

ทั้งนี้ ศึก OR BRIC Superbike ระเบิดความมันส์กันเต็มพิกัด 4 สนาม 5 เรซ ในฤดูกาล 2022 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ สนามแรก วันที่ 6-8 พฤษภาคม, สนามที่ 2 วันที่ 29 – 31 กรกฎาคม, สนามที่ 3 วันที่ 2-4 กันยายน ก่อนจะปิดฉากสนามสุดท้าย ดวลกัน 2 เรซเพื่อตัดสินแชมป์ประจำปีในวันที่ 3-6 พฤศจิกายน 2565

แฟนๆ ความเร็วติดตามชมทางโทรทัศน์ผ่านทาง ช่อง True Visions และพิเศษสำหรับชาว AEC สามารถติดตามได้ทางช่อง MVTV และระบบ Online live streaming ทาง เฟซบุ๊กแฟนเพจ Chang Circuit Buriram และช่องยูทูปของสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ แฟนเพจ BRIC Superbike