Advertisement

สัญญาณแรกของปัญหาสำหรับ มาร์ค มาร์เกซ ในศึก ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ เกิดขึ้นขณะที่เขากำลังเดินเข้าพิตจากด้านหลัง “การาจ เกรซินี” ราว 30 นาทีก่อนเกมจะเริ่มขึ้น และกล้องถ่ายทอดสดจับภาพ “ช่างยาง” 2 คนกำลังวิ่งสวนด้วยความรีบร้อนไปพร้อมกับ “ยางหน้า”

“วันนี้เราโชคไม่ดีเอาเสียเลย” มาร์เกซ เกริ่นหลังกอบกู้อันดับขึ้นมาคว้าอันดับ 4 ในศึก ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์

“โชคร้ายนั้นเป็นเพราะ 30 นาทีก่อนเริ่มต้นเรซ เมื่อช่างเทคนิคของเราไปเช็กแรงดันลมยาง ปรากฏว่า วาล์ว มันแตก”

“จากนั้น ก็อย่างที่คุณเห็นในทีวี พวกเขารีบวิ่งไปที่ฐานของ มิชลิน เพื่อเปลี่ยนยางเส้นใหม่”

“แต่ระหว่างขั้นตอนนั้น พวกเขาทำงานกันได้ดีมาก”

“อย่างไรก็ดี อุณหภูมิยางกลับลดลงอย่างรวดเร็ว เพราะเรามีเวลาในการวอร์มยางน้อย นั่นทำให้ความโกลาหนเริ่มต้นขึ้น”

“ผมหมายถึงในรอบวอร์มอัพ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมต้องจดจ่อกับการเพิ่มอุณหภูมิยางหน้า”

“จากนั้นในช่วงทางตรง ผมเบรกและเปิดระบบ Front Device ซึ่งหลังจากนั้นเล็กน้อย ผมเบรกหน้าอีกครั้ง (เพื่อพยายามสร้างความร้อนให้ยางหน้า) แต่มันกลับทำให้อุปกรณ์สูงต่ำของรถคลายตัว”

“และหลังจากนั้น ผมก็ไม่มีเวลาเพียงพอที่จะเปิดมันอีกครั้ง บนกริดสตาร์ต”

“เมื่อปราศจาก อุปกรณ์ออกตัวล้อหน้า มันยากมากที่จะออกตัวได้ดี แต่ผมก็พยายามใจเย็นสุดๆ ในโค้งแรก”

“ผมบอกกับตัวเองว่า โอเค จะเบรกเร็วหน่อย เพื่อไม่ให้มันเค้นมากเกินไป แล้วค่อยมาว่ากันอีกที แต่หลังจากนั้นก็ถูกปะทะจากด้านซ้าย และเราก็บานออกไปด้วยกันที่โค้งแรก”

“พอร่วงลงไปอันดับ 13 ผมก็เริ่มทำงานแบบ สเต็ป บาย สเต็ป ค่อยๆ ไปทีละขั้น”

สำหรับอุปกรณ์ Ride height devices จะถูกแบนนและถอดออกจากรถแข่ง โมโตจีพี ในปี 2027

โดย มาร์เกซ กล่าวว่า “เราจะยกเลิกใช้มันในปี 2027 แต่ในปีนั้น ดูเหมือนพวกเขาจะมีแนวทางอื่นแล้ว นั่นคือเล่นกับแอโรไดนามิค แต่นับจากนี้ไปจนถึงปี 2027 เคทีเอ็ม ได้เริ่มเผยโฉมแอโรไดนามิคใหม่ออกมาในสุดสัปดาห์นี้ และเราจะค่อยๆ ได้เห็นหลายๆ อย่างตามมา”

วีดีโอที่เกี่ยวข้อง

มาร์เกซ ไม่เห็นด้วยกับการแบนระบบนี้ก่อนกำหนด โดยให้ความเห็นว่า “เราไม่สามารถแบนอุปกรณ์นี้ก่อนกำหนด เพราะผมทำพลาด เพราะนักบิดคนอื่นๆ ก็เคยทำพลาดเช่นกัน”

“มันเป็นเรื่องจริง ที่ตอนนี้เรามีหลายสิ่งให้จัดการกับรถแข่ง โดยเฉพาะเมื่อนักบิดบางคนขึ้นมาจาก โมโตทู พวกเขาจะบอกว่า เรามีหลายอย่างมากที่ต้องทำ”

“แต่วันนี้ มันเป็นความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกับยางหน้าของผม ผมจึงจดจ่อกับการเพิ่มอุณหภูมิยางหน้ามากกว่าปกติ นั่นทำให้ผมมองข้ามความสนใจกับอุปกรณ์ ไรด์-ไฮ”

“ผมเปิดใช้งานมัน แต่เมื่อคำนึงถึงอุณหภูมิยางหน้า ผมกับปลดมันออกเพื่อกดเบรกเพิ่มอุณหภูมิให้ยาง”

“นั่นแหละสิ่งที่เกิดขึ้น มันก็เป็นแบบนั้นแหละ”

ขณะเดียวกัน มาร์เกซ ยืนยันว่ามีความเร็วเพียงพอที่จะขึ้นโพเดี้ยมในวันอาทิตย์ หากปราศจากเหตุการณ์ดังกล่าว

“ที่ คาตาลุนญ่า เราจบอันดับ 2 สปรินต์ และอันดับ 3 ใน เมน กรังด์ปรีซ์ แต่นั่นคือหนึ่งในสุดสัปดาห์ที่สถานการณ์เราแย่ที่สุด”

“สุดสัปดาห์นี้ เป็นหนึ่งในสนามที่ดีที่สุด โดยเฉพาะฟีลลิ่งกับรถแข่ง ความเร็วในการซ้อม ในการควอลิฟาย และเร็วสุดในการวอร์มอัพ แต่เรากลับได้ 0 แต้ม ในวันเสาร์ และอันดับ 4 ในวันอาทิตย์”

“แต่ในเรื่องความเร็ว คือสิ่งที่ผมชอบมากในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งเราอยู่ในจุดนั้น”

มาร์เกซ รั้งอันดับ 4 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ หลังผ่านไป 11 สนาม ตามหลังจ่าฝูงอย่าง ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า ถึง 88 คะแนน และตามหลังท็อปทรีอย่าง เอเนีย บาสเตียนินี 22 คะแนน

โดย มาร์เกซ ทิ้งท้ายว่า “ชัยชนะหากมันยังมาไม่ถึงในปีนี้ ปีหน้ามันจะมาแน่”

วีดีโอที่เกี่ยวข้อง