“เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน รอสซี่ และ “ท็อปกัน” มาเวริค บีญาเลส สองนักบิด มอนสเตอร์ ยามาฮ่า ลงทดสอบ สวิงอาร์ม คาร์บอน ไฟเบอร์, ท่อไอเสียใหม่ และเครื่องยนต์อัพเกรดใหม่ของปี 2020 แต่กลับยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ

ทีมโรงงานยามาฮ่า คว้าชัยชนะได้เพียง 2 ครั้ง นับตั้งแต่ที่ แอสเซ่น ในปี 2017 มาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงผลงานโดยรวมของทีม ว่ายังมีความพยายามไม่มากพอในการพัฒนารถแข่งหากเที่ยบกับทีมโรงงานคู่แข่ง อย่าง ฮอนด้า และ ดูคาติ รวมถึง ซูซูกิ ที่แรงขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในปี 2019

อย่างไรก็ดี ในการทดสอบวันแรกที่ มิซาโน ทั้ง รอสซี่ และ บีญาเลส ลงทดสอบ สวิงอาร์ม คาร์บอน ไฟเบอร์ เป็นครั้งแรก รวมถึงท่อไอเสียใหม่สำหรับ M1 เวอร์ชั่นปัจจุบัน นอกจากนี้ พวกเขายังลงทดสอบเครื่องยนต์ใหม่ อัพเกรดสำหรับปี 2020 ซึ่งเป็นรถต้นแบบฤดูกาลหน้า หลังจากที่ส่งลงเทสต์ครั้งแรกที่ เบอร์โน ในเดือนที่ผ่านมา

ทว่า นักบิดทั้งสองคนของ ยามาฮ่า กลับยังไม่พบความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ของการพัฒนารถแข่ง แม้ว่า บีญาเลส จะจบการทดสอบวันแรกในอันดับ 4 และ รอสซี่ จบอันดับ 5 ตามหลังหัวแถวเพียง 0.3 วินาที ก็ตาม

มาเวริค บีญาเลส

“เราจำเป็นต้องรักษาระดับการทำงานต่อไป ผมคิดว่ามันยังไม่ใช่สเต็ปที่เราสามารถทำได้” บีญาเลส กล่าวถึงการทดสอบชิ้นส่วนใหม่ของ ยามาฮ่า

“มันเป็นวันที่ค่อนข้างยาก ผมติดปัญหากับการคันหาการยึดเกาะ ไม่รู้สึกถึงความผ่อนคลายบนรถแข่ง ในวันศุกร์ เราต้องพยายามค้นหาเซ็ตอัพแบบใหม่ เพื่อปรับปรุงรถแข่งให้ดีขึ้น”

ด้าน รอสซี่ ที่ทำผลงานได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น มีโอกาสที่จะติดตั้ง สวิงอาร์ม คาร์บอน ไฟเบอร์ ใหม่ของพวกเขาลงแข่งขันในโฮมเรซ ซึ่งกำลังจะมาถึงในสุดสัปดาห์ข้างหน้าที่ มิซาโน

“เรามีสิ่งที่น่าสนใจในการค้นหาสำหรับการทดสอบวันแรก ซึ่งออกมาดีเลยทีเดียว เพราะผมค่อนข้างทำได้ดีตลอดทั้งวัน” รอสซี่ เผย

“เราออกสตาร์ทการเทสต์ด้วยรถแข่งต้นแบบปี 2020 หลังจากนั้นก็กลับมาทำงานกับรถแข่งปีนี้ กับบางสิ่งที่แตกต่าง ทุกอย่างค่อนข้างลงตัวนะ และขีดกาตต่อสู้ของเราก็ไม่เลวเลยทีเดียว”

ส่วนการทดสอบ M1 2020 รอสซี่ กล่าวว่า “เราอยู่ในเส้นทางที่ดี เราก็จำเป็นจะต้องปรับปรุงให้มากขึ้น มันยังไม่ใช่สเต็ปที่ใหญ่โตอะไรนัก แต่ถือว่ามาได้ถูกทางแล้วละ” รอสซี่ ทิ้งท้าย

วาเลนติโน รอสซี่ ในวัย 40 ปี ยังคงเป็นที่พึ่งสำคัญของ ยามาฮ่า ใน โมโตจีพี