ฟรานเชสโก บันยาญ่า นักบิดอิตาเลียนจาก พรามัค ดูคาติ ออกโรงเปิดเผยถึงฤดูกาลแรกของตนเองใน โมโตจีพี ที่สะดุดแล้วสะดุดอีก ว่าเป็นผลมาจากผลการเทสต์ครั้งแรกที่ เซปังฯ​ออกมาอย่างสวยหรู สร้างความมั่นใจเกินไป ก่อนเจอสถานการณ์ยากลำบากตลอดทั้งฤดูกาลกับการปรับตัวเข้าหายาง มิชลิน

นักบิดอิตาเลียนวัย 22 ปี ถูกล็อกตัวโดย ดูคาติ มานับตั้งแต่ปี 2017-2018 เพื่อดึงขึ้นสู่ โมโตจีพี ก่อนจะขยับขึ้นสู่ปีแห่งรุกกี้ในฤดูกาล 2019 หลังจากที่โชว์ฟอร์มเปรี้ยงปร้างในโมโตทู

บันยาญ่า เปิดตัวในการทดสอบที่ เซปัง ด้วยการทำเวลาได้อย่างเหลือเชื่อ เขากดเวลามาเป็นอันดับ 2 ตามหลัง ดานิโล เปตรุชชี นักบิดทีมโรงงาน ดูคาติ เพียง 0.063 วินาทีเท่านั้น

อย่างไรก็ดี บันยาญ่า ยังไม่สามารถรีดฟอร์มเก่งกับ พรามัค ดูคาติ ได้เลย โดยจบฤดูกาลแรกในพรีเมียร์คลาสด้วยอันดับ 15 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ แถมมีช่องว่างจาก ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร จาก ปิโตรนาส ยามาฮา เอสอาร์ที อย่างมาก รวมถึง โจอัน เมียร์ จาก ซูซูกิ และ มิเกล โอลิเวียร่า จาก เคทีเอ็ม เทคทรี ที่สร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น

ฟรานเชสโก บันยาญ่า

บันยาญ่า กล่าวสะท้อนถึงผลงานในฤดูกาลแรกกับ พรีเมียร์คลาส ว่า “บางทีปัญหาใหญ่ของผมในปีนี้ มันอาจเป็นเพราะการทดสอบครั้งแรกที่ มาเลเซีย ซึ่งผมเร็วที่สุดเป็นอันดับ 2” 

“หลังจากการทดสอบครั้งนั้น ผมคิดว่าผมจะสามารถปรับตัวจนสามารถต่อกรกับคู่แข่งคนอื่นๆ ได้ง่ายๆ เพื่อจะก้าวไปสู่กลุ่มหน้า แต่ทุกอย่างกลับไปเป็นศูนย์อีกครั้งที่การเทสต์ที่ กาตาร์ ที่ซึ่งผมเริ่มมีปัญหามากขึ้น และตลอดทั้งฤดูกาลก็เป็นเรื่องยากมากเช่นกัน”

นักบิดอิตาเลียนชี้ว่าปัญหาคือการปรับตัวให้เข้ากับยาง มิชลิน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่เขาต้องต่อสู้มาคลอดทั้งฤดูกาล เพราะเขาใช้ยางดัลล็อปมาตลอดนับตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงบิดในรายการ ซีอีวี โมโตทรี จนถึง โมโทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ

“ผมลงแข่งด้วยยางดัลล็อปมาตั้งแต่ปี 2011-2018 ซึ่งฟีลลิ่งมันแทบไม่แตกต่างกันเลย ทั้งใน โมโตทรี และ โมโตทู” เขาอธิบาย

“ใน โมโตจีพี กับยางมิชลินมันแตกต่างออกไป ผมเริ่มเจอปัญหาในการสร้างความเข้าใจ และมันคือหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ผมต้องข้ามผ่านมันให้ได้ เพื่อสร้างความเข้าใจมากขึ้นกับยางหน้า และลดความผิดพลาดลง”

ทั้งนี้ บันยาญ่า ที่ลงบิดด้วยรถแข่งสเป็คเก่าในปีนี้ของ ดูคาติ และได้รับข้อตกลงในสัญญาสำหรับฤดูกาล 2020 อย่างชัดเจน โดยระบุให้เขาได้อัพเกรดไปใช้รถแข่งเวอร์ชั่นปี 2020 สำหรับปีที่ 2 ที่ร่วมงานกับ พรามัค ดูคาติ ซึ่งต้องติดตามว่านักบิดอิตาเลียนรายนี้ จะสามารถยกระดับผลงานขึ้นมาได้หรือไม่?