ติดตามรายงานสดการแข่งขัน เอ็นดูรานซ์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2019/2020 สนาม 2 รายการ เซปัง 8 ชั่วโมงได้ที่นี่

20.00 : “คิงคองก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม”​ ของ เอ.พี.ฮอนด้า ทำผลงานระดับมาสเตอร์ แท็กทีม ซัควาน ไซดี้ เพื่อนร่วมทีมชาวมาเลเซียน ควบรถแข่ง ฮอนด้า CBR1000RR หมายเลข 88 พาต้นสังกัด ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง ผงาดคว้าอันดับ 2 ซิวตำแหน่งรองแชมป์ของศึกเอ็นดูรานซ์หฤโหดรายการ เซปัง 8 ชั่วโมง สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักบิดไทยคนแรกที่ขึ้นโพเดี้ยมในศึกเอ็นดูรานซ์ชิงแชมป์โลก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่ เซปังฯ เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ส่วนแชมป์เป็นของ ยาร์ท ยามาฮ่า หมายเลข 7

19.35 : จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วง 30 นาที สุดท้าย เมื่อ นิโคโล คาเนป้า ผู้นำจากทีม ยาร์ท ต้องนำรถเข้าพิตเพื่อเติมน้ำมัน ส่งผลให้ สมเกียรติ ร่นระยะห่างเข้ามาเหลือเพียง 6 วินาทีเท่านั้น พร้อมกับมีโอกาสต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งหัวแถวอย่างเต็มตัว แต่ก็ต้องนำรถเข้าพิตเพื่อเติมนำ้มันเช่นกันและเปลี่ยนให้ ซัควาน ไซดี้ ลงบิดเพื่อปิดจ็อบเป็นคนสุดท้ายของทีม

19.29 : นิโคโล คาเนป้า นำรถแข่งของทีม YART Yamaha เข้าพิต เพื่อเติมน้ำมัน ทำให้ระยะห่างจาก สมเกียรติ อันดับ 2 เหลือเพียง 8.8 วินาทีเท่านั้น

19.09 : หมายเลข 71 จาก Suzuki JEG-Kayama พลาดล้ม ต้องออกจากการแข่งขัน ส่งผลให้ สมเกียรติ พาทีมทะยานขึ้นมารั้งอันดับ 2 ขณะที่เหลือการแข่งขัน 48 นาที

18.50 : ผู้นำอย่าง เอฟ.ซี.ซี. ทีเอสอาร์ ฮอนด้า พลาดล้ม ก่อนนำรถเข้าพิต ทำให้ ก้อง-สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยขยับขึ้นมารั้งอันดับ 3

18.20 : สมเกียรติ ลงไปทำหน้าที่แทน ซัควาน ไซดี้ ออกจากพิตในอันดับ 4

17.56 : เซฟตี้คาร์ออกมาวิ่งนำ เพราะมีคราบน้ำมันเลอะแทร็กที่โค้ง 1 ทำให้อันดับรถแข่งแต่ละคัน

17.53 : หมายเลข 9 ที่รั้งอันดับ 2 รถพังต้องออกจากการแข่งขัน ทำให้ ซัควาน ไซดี้ พาเบอร์ 88 ขั้นมารั้งอันดับ 3

17.37 : ยามาฮ่า เซปัง ต้องเอารถเข้าพิตเพื่อเช็กความเสียหาย ก่อนจะเติมน้ำมันและให้ ฟาน เดอร์ มาร์ค ออกมาลุยต่อ

17.30 ไมค์ ดิ เมกลิโอ เกี่ยวกับ ไมเคิล ฟาน เดอร์ มาร์ค ล้มซะแล้ว กำลังชิงที่ 1 กันมันส์ๆ

17.24 ซันวาน ไซดี้ ทีมเมทของ สมเกียรติ จันทรา ร่วงลงไปรั้งอันดับ 4

17.17 : ไมค์ ดิ เมกลิโอ แซง ฟาน เดอร์ มาร์ค ขึ้นเป็นผู้นำได้สำเร็จ ขณะที่ฝนหยุดตกแล้ว แต่สภาพแทร็กยังคงเปียกชื้น

17.05 : เซฟตี้คาร์ออกจากแทร็ก ไมเคิล ฟาน เดอร์ มาร์ค พา ยามาฮ่า เซปัง เรซซิ่ง หมายเลข 21 ขึ้นนำ ตามด้วย หมายเลข 5 จาก เอฟ.ซี.ซี. ทีเอสอาร์ ฮอนด้า ที่บิดโดย ไมค์ ดิ เมกลิโอ เป็นอันดับ 2 ส่วนหมายเลข 88 ของ ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท โชวะ เปลี่ยนให้ ซัควาน ไซดี้ ลงมาบิดเป็นคนแรก ร่วงลงไปรั้งอันดับ 3

17.00 : การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ออกสตาร์ทตามหลังเซฟตี้คาร์

16.40 : เรซ ไดเร็กเตอร์ ประกาศรีสตาร์ทการแข่งขันอีกครั้งในเวลา 17.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) นั่นหมายความว่าจะเหลือการแข่งขันทั้งสิ้น 3 ชั่วโมง

16.30 : ทุกทีมเดินออกจากห้องประชุมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แต่ยังไม่มีประกาศใดๆ จาก เรซ ไดเร็กเตอร์ ถึงข้อสรุป

16.00 : เรซ ไดเร็กเตอร์ เรียกผู้จัดการทีมประชุมเครียดอีกครั้ง

14.39 : RED FLAG ฝนตกหนักอีกครั้ง กรรมการประกาศธงแดง

14.34 : จีโน เรีย รถแข่งหมายเลข 77 ต้องนำรถเข้าพิต

14.10 : EWC 8 Hours Of Sepang กลับมาเริ่มแข่งกันได้แล้ว!

การแข่งขันกลับมาดวลกันได้อีกครั้ง ด้วยการที่นักบิดทั้ง 50 คัน จะต้องขี่ตาม เซฟตี้ คาร์ ไปก่อน เพื่อเช็กสภาพแทร็ก และทำการนับจำนวนรอบไปในตัว โดยระหว่างที่ เซฟตี้ คาร์ ยังวิ่งนำจะไม่สามารถแซงกันได้

13.00 : ยืนยันแข่งต่อและต้องจบตามเวลาเดิม

เนื่องจากสภาพอากาศที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้การแข่งขันถูกประกาศดีเลย์ออกไป หลังจากที่ ผู้จัดการทีมทุกทีมลงมติเห็นด้วยให้เลื่อนการออกสตาร์ทเรซในศึก เซปัง 8 ชั่วโมง ครั้งแรก

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงเวลาชั่วโมงเศษๆ ส่งผลให้แทร็กของ เซปัง เจิ่งนองไปด้วยน้ำในหลายจุด ซึ่งจากการสำรวจรอบสนาม เรซจะกลับมาเริ่มต้นอีกครั้งด้วยการออกสตาร์ทแบบขี่ตาม เซฟตี้ คาร์

ทั้งนี้ ทุกทีมจะได้รับแจ้งเวลาการออกสตาร์ทใหม่ เมื่อสภาพอากาศดีขึ้น
โดยยืนยันว่า ไม่ว่าในกรณีใดการแข่งขันจะต้องจบลงในเวลา 20.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

12.15 : กรรมการเรียกนักบิดและทีมแข่งทุกทีมเข้าประชุม เพื่อหารือเกี่ยวกับการแข่งขันว่าจะออกมาแบบไหน

12.00 : กรรมการประกาศสตาร์ทดีเลย์ เนื่องจากมีฝนตกลงมาหนักเกินไป

11.55 : ฝนตกลงอย่างหนัก ทำให้การแข่งขันต้องเริ่มต้นแบบ Wet Race

กริดสตาร์ท