“ท็อปกัน” มาเวริค บีญาเลส นักบิดรูปหล่อชาวสแปนิชออกโรงแสดงความมั่นใจว่า สามารถหาจุดที่ต้องแก้ไขได้แล้ว ทั้งสำหรับตนเองและรถแข่ง M1 เพื่อให้ ยามาฮ่า กลับสู่เส้นทางลุ้นแชมป์โลกโมโตจีพีให้ได้

ดูเหมือน ยามาฮ่า จะพยายามตามหาท็อปสปีดที่ดีขึ้นในรถแข่งปี 2020 ของ โมโตจีพี

“นั่นคืองานหลักของเราที่ยากมากซึ่งต้องปรับปรุง” ลิน ยาร์วิส ผู้อำนวยการทั่วไป ยามาฮ่า เรซซิ่ง ระบุ

“แต่เราก็ไม่ต้องการได้ท็อปสปีดมา โดยที่ต้องสูญเสียจุดแข่งบางอย่างไป แต่ชัดเจนแล้วว่านั่นคือจุดที่เรามีปัญหาอยู่ นั่นคือส่วนประกอบของ แรงม้า, แอโรไดนามิกส์ และอัตราเร่ง”

มาเวริค บีญาเลส กับการทดสอบรถต้นแบบ M1 2020 ที่ บาเลนเซีย

รถแข่งต้นแบบล่าสุดของ ยามาฮ่า นั้นได้ถูกส่งลงทดสอบตลอดการเทสต์หลังจบฤดูกาล 2019 ที่ บาเลนเซีย และ เฆเรซ ทว่าทั้ง วาเลนติโน รอสซี่ และ มาเวริค บีญาเลส ก็ได้เตือนต้นสังกัดว่า “ท็อปสปีด” ของ M1 ยังคงมีช่องว่างที่กว้างเกินไปจากหัวแถว

ขณะที่ ยามาฮ่า พยายามเรียกประสิทธิภาพจากเครื่องยนต์ให้มากขึ้น ก่อนเข้าสู่การทดสอบที่ เซปัง ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ บีญาเลส ซึ่งเป็นนักบิดยามาฮ่าคนเดียวที่คว้าแชมป์ได้นับตั้งแต่ปี 2017 เผยว่าตนเองรู้สึกว่าสามารถเค้นศักยภาพจาก M1 ได้มากขึนจากการปรับสไตล์การบิด

“ผมค่อนข้างชัดเจนกับสิ่งที่ผมต้องปรับปรุง และสิ่งที่รถแข่งต้องได้รับการแก้ไข เพื่อที่จะสร้างโอกาสต่อสู้เพื่อลุ้นแชมป์โลก” บีญาเลส กล่าวหลังจบการทดสอบครั้งสุดท้ายของปี 2019

“ดังนั้น เรากำลังทำงานอย่างหนักสำหรับสิ่งเหล่านี้ และที่แน่นอนที่สุดในตอนนี้คือผมมัเวลา 2 เดือน ในการปรับปรุงตัวเอง”

นอกจากนี้ บีญาเลส ยังกล่าวต่อว่า “สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ผมเปลี่ยนในสไตล์การขับขี่ คือการปรับให้มีความสมูธมากขึ้นนิดหน่อย เพื่อช่วยให้รถแข่งไปได้เร็วขึ้น และในจุดนั้นผมสามารถทำมันได้ ผมสามารถประยุกต์มันเข้าด้วยกันได้แล้ว”