ศึกซูเปอร์จีที เผยคิวแข่งล่าสุดหลังโดนโควิด-19 เล่นงาน วางแพลนใช้สังเวียนภายในประเทศเหลือเพียง 3 สนาม ล็อกเป้าเปิดฉากที่ ฟูจิ อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์ ในวันที่ 18-19 กรกฎาคม ขณะที่ สนามช้างฯ ยังเป็นส่วนหนึ่งในปฎิทินการแข่งขัน โดยใช้เป็นสังเวียนส่งท้ายฤดูกาลช่วงปลายเดือนธันวาคม หากไร้ปัญหาเรื่องการเดินทางระหว่างประเทศ   

เกมความเร็วระดับโลกประจำชาติญี่ปุ่น อย่าง ศึกซูเปอร์จีที โดนวิกฤติโควิด-19 เล่นงาน ส่งผลให้ต้องเลื่อนจัดการแข่งขันไปจากกำหนดการเดิมซึ่งมีคิวเปิดฤดูกาล 2020 ในเดือนเมษายน ทว่าจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ เนื่องด้วยสถานการณ์ที่ยังไม่นิ่งพอที่จะรองรับการแข่งขันได้

ล่าสุด ฝ่ายจัดการแข่งขัน ได้เผยคิวแข่งฉบับแก้ไข โดยจะใช้สังเวียนชิงชัยภายในประเทศเพียง 3 แห่ง ได้แก่ ฟูจิ อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์, ซูซูกะ อินเตอร์เนชั่นแนล เรซซิ่ง คอร์ส และ ทวินริง โมเตกิ รองรับการแข่งขันในฤดูกาลนี้ ส่งผลให้ โอกายาม่า อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต, สปอร์ตแลนด์ ซูโก้ และ ออโตโปลิส อินเตอร์เนชั่นแนล เรซซิ่ง คอร์ส หลุดจากปฎิทินการแข่งขันไป

ส่วนสังเวียนนอกประเทศเหลือเพียง ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศไทย ที่ยังคงอยู่ในแพลน ทว่าจะเลื่อนจากสนามที่ 4 ไปเป็นนัดส่งท้ายฤดูกาลในช่วงปลายเดือนธันวาคม ขณะที่ เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ต้องยืดเวลาคัมแบ็กออกไป หลังถูกหั่นออกจากปฎิทินการแข่งขันในฤดูกาลนี้เป็นที่เรียบร้อย

สำหรับ ศึกซูเปอร์จีที 2020 จะเปิดฉากดวลความเร็วในวันที่ 18-19 กรกฎาคม ที่ ฟูจิ อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์ ต่อด้วยสนามที่ 2 บนสังเวียนเดียวกันในวันที่ 8-9 สิงหาคม ก่อนจะโยกไป ซูซูกะ อินเตอร์เนชั่นแนล เรซซิ่ง คอร์ส ในวันที่ 22-23 สิงหาคม และ ทวินริง โมเตกิ ในวันที่ 12-13 กันยายน โดยใน 4 สนามแรกจะเป็นการแข่งขันแบบไร้ผู้เข้าชม

ฟูจิ อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์

ก่อนจะเปิดให้แฟนความเร็วเข้าชมเกมได้ในสนามถัดไป ที่ ฟูจิ อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์ ในวันที่ 3-4 ตุลาคม ต่อด้วย ซูซูกะ อินเตอร์เนชั่นแนล เรซซิ่ง คอร์ส ในวันที่ 24-25 ตุลาคม และ ทวินริง โมเตกิ ในวันที่ 7-8 พฤศจิกายน ก่อนจะบินมาส่งท้ายฤดูกาลที่ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศไทย ในวันที่ 26-27 ธันวาคม

ทว่าขึ้นการชิงชัยในสนามสุดท้ายของฤดูกาลนั้น ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ในเรื่องของการเดินทางระหว่างประเทศว่าเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด ซึ่ง ฟูจิ อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์ ก็พร้อมสแตนด์บาย หากไม่สามารถยกพลออกมาดวลความเร็วนอกประเทศได้ โดยจะถูกใช้เป็นสนามส่งท้ายฤดูกาลในวันที่ 28-29 พฤศจิกายน