ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร [Fabio Quartararo] ยอดนักบิดเฟรนช์สุดฮอต ออกโรงยกย่องต้นสังกัด ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ว่ามีการทำงานที่เป็นมืออาชีพ และมีศักยภาพไม่ต่างจากทีมโรงงานยามาฮ่า พร้อมกับชี้ว่านี่คือเหตุผลที่ “เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน รอสซี่ [Valentino Rossi] ต้องตัดสินใจย้ายไปร่วมงาน
ทีมโรงงานยามาฮ่า (Yamaha Factory Racing Team) ตัดสินใจแยกทางกับ รอสซี่ หลังจบฤดูกาล 2020 ด้วยการเลือกต่อสัญญากับ มาเวริค บีญาเลส และเซ็นสัญญาดึงตัว ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ดาวรุ่งเฟรนช์ขึ่นสู่ทีมใหญ่ หลังสร้างผลงานยอดเยี่ยมด้วยการคว้า 6 โพล และขึ้นโพเดี้ยมได้ถึง 7 สนาม
รอสซี่ ขยับเข้าใกล้การย้ายไปร่วมงานกับ ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ภายใต้สัญญาของทีมโรงงานยามาฮ่า และได้รับการซัพพอร์ทด้วยเงื่อนไขเดียวกับนักบิดทีมโรงงาน โดยเชื่อว่านักบิดอิตาเลียนวัย 41 ปี จะตัดสินใจภายในเดือนนี้
กวาร์ตาราโร เปิดเผยกับ Motorsport.com ในประเด็นที่ว่า “เหตุผลใดที่ รอสซี่ ควรย้ายไปร่วมงานกับ ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ในปีหน้า”
“ผมอยากบอกว่ามันคือครอบครัว” กวาร์ตาราโร กล่าวถึงทีมน้องใหม่ใน โมโตจีพี (ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที)
“ผมคือคนหนึ่งที่ทำงานของตัวอย่างอย่างเต็มร้อย และมุ่งมั่นกับสิ่งที่ผมต้องทำ”
“หากคุณมีเวลาเต็ม 10 ชั่วโมง นั่นจะไม่ใช่ปัญหาเลย แต่เมื่อผมทำงานเสร็จ ผมก็จัยังคงยุ่งไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงเวลากลับไปทำงาน นี่คือการรวมตัวกันของมืออาชีพ และความรู้สึกดีๆ เหล่านี้เป็นสิ่งกำหนดทิศทางของทีมเรา”
“ผมไม่รู้ว่าออฟฟิเชียลทีม (ทีมโรงาน) เขาทำงานกันอย่างไร แต่ผมก็สงสัยนะว่ามันจะเป็นมืออาชีพมากกว่าเราแค่ไหน”
หลังจากพ่ายแพ้ต่อ มาร์ค มาร์เกซ อย่างน่าเจ็บใจที่ ซาน มาริโน และประเทศไทย ในฤดูกาลที่ผ่านมา กวาร์ตาราโร ทีฟอร์มร้อนแรงสุดๆ ก็ได้รับการซัพพอร์ทอย่างเต็มที่จากทีมโรงงานยามาฮ่าในปีนี้ และหลายฝ่ายคาดว่าเขาจะเป็นคู่แข่งคนสำคัญในการท้าชิงแชมป์โลก
จากผลงานที่สม่ำเสมอบนรถแข่งยามาฮ่าในปีที่ผ่านมา รวมถึงผลการทดสอบช่วงพรี-ซีซั่นกับรถแข่ง M1 ทำให้ กวาร์ตาราโร ถูกคาดหวังว่าจะสร้างผลงานได้อย่าางยอดเยี่ยมอีกครั้งในฤดูกาลนี้
เมื่อถูกถามว่าเขาให้ความสำคัญกับการ “เอาชนะ” นักบิดยามาฮ่า หรือไม่ในปี 2020, กวาร์ตาราโร กล่าวว่า “ผมคงไม่บอกว่ามันไม่สำคัญ เพราะการเอาชนะสองนักบิดทีมโรงงานด้วยรถแข่งของทีมแซ็ตเทิลไลต์ มันคือสิ่งที่ดี มันคือแรงกระตุ้นปละมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร”
“ปีที่แล้วเครื่องยนต์ของผม ให้แรงบิดน้อยกว่านักบิดยามาฮ่าคนอื่นๆ 500rpm และรถแข่งของผมก็ไม่มีกระบอกโช๊กคาร์บอน ซึ่งผมก็ค่อยๆ ได้รับสิ่งเหล่านั้นเพิ่มมาทีละนิดทีละหน่อย เป้าหมายของผมคือการแสดงให้เห็นว่าผม ทำผลงานได้ใกล้เคียงกับพวกเขาวพกแค่ไหน แถมบางครั้งก็นำหน้าพวกเขาด้วย”
