มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลก 8 สมัย เผยว่าการแข่งขัน 2 สนามแรกที่ เฆเรซ “สำคัญ” อย่างมากต่อ ฮอนด้า ในการประเมินรถแข่ง RC213V 2020 หลังจากวิกฤติตลอดช่วงพรี-ซีซั่น โดยต้องใช้ออโรแพ็คเกจชุดปี 2019 มาแก้ปัญหา

ฮอนด้า เจอปัญหาอย่างหนักในการทดสอบตลอดช่วง พรี-ซีซั่น ของ โมโตจีพี 2020 โดยพวกเขาสามารถที่จะทลายกำแพงอันยากลำบากได้ในวันสุดท้ายของการทดสอบที่ กาตาร์ ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากพบว่าสาเหตุหลักของปัญหาคือเรื่องของอากาศพลศาสตร์

หลังผ่านการทดสอบ 2 ช่วง ในออฟฟิเชียลเทสต์ (ช่วงละ 90 นาที) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยนับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนที่นักบิดทุกคนได้กลับมาบิดรถแข่งโมโตจีพี, มาร์เกซ กล่าวว่าเขามีเวลาไม่มากพอ ในการเซ็ตอัพรถแข่ง RC213V

ภายใต้สถานการณ์ช่วงโควิด-19 ทำให้ โมโตจีพี มีการแก้ไขตารางแข่งขันใหม่ โดย 2 สนามแรกจะดวลที่ เฆเรซ ช่วง 2 สัปดาห์ติดต่อกัน ซึ่ง มาร์เกซ เชื่อว่า ฮอนด้า จะสามารถเปิดตัว “ชิ้นส่วนใหม่” บางอย่างและติดตั้งลงแข่งขันได้ในสนามที่ 2 ภายใต้การเซ็ตอัพแบบเดียวกับสนามแรก

“มันสำคัญกับเรามาก โดยเฉพาะในแง่ของการเซ็ตอัพและเปิดตัวชิ้นส่วนใหม่ เพราะการแข่งขันสนามเดียวกัน 2 สัปดาห์ติดต่อกันนั้น เราจะสามารถใช้ชิ้นส่วนใหม่ในสนามที่ 2 ได้ หลังจากที่สนามแรกมีการเซ็ตอัพเป็นพื้นฐานไว้แล้ว”

“แต่ยังไงก็ตาม เราไม่สามารถลืมได้ว่า ทุกคนต้องทำงานภายใต้ความคาดหวังจาก เฆเรซ 1 ไปสู่ เฆเรซ 2 เช่นกัน (หมายถึงทีมอื่นๆ) ดังนั้นในสนามที่ 2 ทุกอย่างจะเริ่มเข้าใกล้กันมากกว่าเดิม”

“ดังนั้น มันยังมีความสำคัญเพราะเราเองมีความผิดพลาดในช่วงพรีซีซั่น ทำให้เรามีเวลาทดสอบรถแข่งเพื่อทดลองไอเทมใหม่ๆ มากขึ้น”

หลังจบการทดสอบในวันพุธ ด้วยอันดับ 3 ของตารางเวลา มาร์เกซ​ ได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของรถแข่งที่มีมากขึ้น หากเปรียบเทียบกับการทดสอบที่ กาตาร์ ทว่าเขายังเน้นว่า ฮอนด้า ยังคงมีปัญหาเรื่อง “ความสมดุล”​ ของรถแข่งที่ยังหาคำตอบไม่ได้

“อย่างที่เหฯกันแหละครับ สิ่งที่เราเปลี่ยนแปลงในชั่วโมงสุดท้ายที่ กาตาร์ คือชิ้นส่วนแอโรไดนามิก” มาร์เกซ กล่าว

“นั่นคือบางจุดที่เป็นไปในทิศทางบวก แต่ก็ยังมีจุดอ่อนใหญ่ๆ ที่ยังแก้ไม่หาย และตอนนี้ แอโรแพ็คเกจของปี 2019 คือสิ่งที่เราใช้เพื่อหาแนวทางแก้ไขมัน ซึ่งนั่นคือหนึ่งในความคืบหน้าเล็กๆ น้อยๆ”

“แต่นี่คือสิ่งที่เราคิดว่าสามารถแก้ปัญหาได้ แต่ในตอนนี้เราก็ยังคงมีปัญหาอื่นๆ อยู่ ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องของความสมดุลย์ของรถแข่ง”