ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร นักบิดเฟรนช์ จ่าฝูงโมโตจีพีจาก ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที เผยว่าปัญหาของเขาที่เกิดใน ออสเตรีย กรังด์ปรีซ์ เป็นเรื่อง “อันตราย” สุดๆ ซึ่งเกี่ยวกับระบบเบรก และไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน

กวาร์ตาราโร ออกสตาร์ทจากกริดที่ 3 ก่อนจะรูดลงไปถึงท้ายแถวในรอบที่ 6 หลังจากที่เขาทะลุโค้งลงไปบ่อกรวดที่โคง 4 โดยเจ้าตัวเปิดเผยภายหลังว่า “เบรกหน้า” มีปัญหาและมันลื่นเหมือนกับคลัทช์…

นักบิดเฟรนช์รีสตาร์ทได้ยอดเยี่ยมหลังธงแดง และกอบกู้อันดับจนไล่ขึ้นมาจบเรซในอันดับ 8 ยังคงรักษาตำแหน่งจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพไว้ได้หลังผ่านสนามที่ 4 ของปีนี้

อย่างไรก็ดี กวาร์ตาราโร บอกว่ายังคงมีปัญหาเดิมเกี่ยวกับเบรก ในช่วงรีสตาร์ท แม้ว่าทีมจะพยายามทำทุกอย่างบนรถแข่งแล้วก็ตาม โดยเขาชี้ว่ารถแข่งสูญเสีย “ความง่าย” ในการควบคุมจากปัญหาดังกล่าว 

“มันยากมาก เพราะเรามีปัญหาด้านเทคนิคตลอดทั้งช่วงแรกของเรซ และหลังรีสตาร์ท” กวาร์ตาราโร เผยหลังจบเรซล่าสุดที่ ออสเตรีย โดยยังคงมีคะแนนำเป็นจ่าฝูงเหนือ อันเดรีย โดวิซิโอโซ ผู้ชนะจาก ดูคาติ อยู่ 11 คะแนน

“มันเกิดขึ้นในช่วงเรซแรก (ก่อนธงแดง) ผมอยู่บนทางตรงก่อนเข้าโค้ง 4 ผมอยู่อันดับ 5-6 และขี่ได้ง่ายมาก แต่ในรอบก่อนหน้านั้นผมเริ่มรู้สึกว่าเบรกมันเริ่มลื่น”

“รอบถัดมา ผมเบรกในตำแหน่งเดิมที่เคยทำมาตลอดทั้งสุดสัปดาห์ แน่นอนเราเบรกไม่อยู่ มันลื่นเหมือนเป็นคลัทช์เลย”

“ผมกำมันแน่นถึง 4 นิ้ว พยายามหยุดรถแข่ง ตอนนั้นมันอันตรายสุด”

“เราตัดสินใจเปลี่ยนทุกอย่าง แต่มันก็ยังเหมือนเดิมในช่วงรีสตาร์ท”

“ผมพยายามทำทุกอย่างสุดความสามารถตลอดรอบที่เหลือ พยายามเรียกความมั่นใจกลับคืนมา เพราะในบางจังหวะที่ตามหลังคนอื่น ผมพยายามจะไม่ใช้เบรก ท้ายที่สุดเราก็ไล่ขึ้นมาจบเรซในอันดับ 8 ได้ วึ่งมันไม่เลวร้ายจนเกินไปกับเรซที่มีปัญหาแบบนี้”