ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร รองจ่าฝูงโมโตจีพีจาก ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที เผยไม่ได้รับคำเตือนจาก เรซ ไดเร็กเตอร์ ว่าหลุด “แทร็กลิมิต” ผ่านหน้าจอรถแข่งตลอดการแข่งขัน เอมิเลีย โรมันญ่า กรังด์ปรีซ์ ก่อนจะโดนลงโทษ “ลอง แล็ป เพนัลตี้” ในรอบสุดท้าย

กวาร์ตาราโร ไล่บี้อย่างหนักกับ โปล เอสปาร์กาโร นักบิดเคทีเอ็ม เพื่อชิงอันดับบนโพเดี้ยม ก่อนที่ โจอัน เมียร์ นักบิดจาก ซูซูกิ จะเข้ามามีเอี่ยมด้วยในช่วงท้ายเรซ โดยนักบิดฝรั่งเศสถูกเตือน “แทร็ก ลิมิต” มาแล้ว 3 ครั้ง

ก่อนที่เจ้าตัวจะหลุด แทร็กลิมิต ออกไปอีก 2 ครั้ง จนโดนลงโทษ ลองแล็ป เพนัลตี้ ในรอบสุดท้าย ส่งผลให้ต้องเสียอันดับ 3 ให้กับ โปล เอสปาร์กาโร จากการโดนบวกเวลา 3 วินาที

ทว่า กวาร์ตาราโร กล่าวว่า เขาไม่ได้รับ “ข้อความเตือน”​ เรื่องแทร็กลิมิตเลย และข้อความเดียวที่เขาได้รับคือการโดนลงโทษ “ลองแล็ป เพนัลตี้” หลังจากที่เขาผ่านโค้ง 10 ซึ่งเป็นจุดที่ต้องเข้ารับโทษไปแล้ว

จากบทลงโทษดังกล่าว ทำให้เขาโดนบวดเวลา 3 วินาที ปรับจากอันดับ 3 ลงไปจบเรซในอันดับ 4

“ผมได้รับข้อความลงโทษ ลองแล็ป เพนัลตี้ แต่ เรซ ไดเร็กเตอร์ ไม่ได้ส่งข้อความเตือนอะไรมาก่อนหน้านี้เลย เกี่ยวกับเรื่อง แทร็ก ลิมิต”

“ดังนั้น ผมเลยค่อนข้างแปลกใจมาก ผมแฮปปี้กับเรซนี้ เพราะผมสู้ได้จนจบเรซ เพื่อการลุ้นโพเดี้ยม”

“และผมก็มาเห็นข้อความลงโทษ ลองแล็ป เพนัลตี้ หลังจากผ่านโค้ง 10 มาแล้ว (จุดทำโทษลองแล็ป)”

กวาร์ตาราโร ไล่บี้ โปล เอสปาร์กาโร อย่างหนักแต่ไม่สามารถแซงได้

“ผมคิดว่ามันคือสิ่งที่พวกเขาต้องทำงานให้รอบคอบ เพราะเมื่อคุณได้รับการเตือนเรื่องแทร็กลิมิต คุณจะระมัดระวังมากขึ้น และเมื่อคุณรู้แล้วว่าหลุกแทร็กลิมิตไป คุณจะเริ่มลดความดุดันลง”

“ผมไม่ได้รับคำเตือนใดๆ ก่อนหน้านี้ และสำหรับผมมันจึงยากที่จะควบคุม”

“สำหรับผมแล้ว นี่คือความผิดพลาดของพวกเขา และการหลุดแทร็กลิมิตถึง 5 ครั้ง ก็เป็นความผิดของผมเอง”