เฟอร์รารี่ ยอดทีมยักษ์หลับในศึกรถสูตรหนึ่ง เปิดตัวรถแข่งใหม่ภายใต้รหัส SF21 ซึ่งเน้นโทนแดง และตัดด้วยสีเขียวจากสปอนเซอร์อย่าง “มิชชัน วินนาว” โดยมีภารกิจเสริมเขี้ยวเล็บให้ ชาร์ลส์ เลอแคลร์ และ คาร์ลอส ซายน์ซ จูเนียร์ ทวงความยิ่งใหญ่กลับคืนสู่ทีม

เฟอร์รารี่ จะส่งรถแข่ง SF21 ลงแตะแทร็กครั้งแรกในวันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคมนี้ ในวันของ “การถ่ายทำ” เพื่อทำการ “เชคดาวน์” ที่ บาห์เรน อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ก่อนจะออกสตาร์ทการทดสอบอย่างเป็นทางการของ ฟอร์มูล่าวัน 2021 ในวันศุกร์ที่ 12 มีนาคมนี้ ที่ บาห์เรน เช่นกัน

ทั้งนี้ เลอแคลร์ และ ซายน์ซ จะมีเวลาเพียง 3 วันในการทดสอบเช่นเดียวกับนักขับจากทีมอื่นๆ ก่อนจะที่เปิดฤดูกาล 2021 ในวันที่ 26-28 มีนาคมนี้ ในศึก บาห์ เรนห์ กรังด์ปรีซ์

ก่อนหน้านี้ ซายน์ซ ได้มีโอกาสลงทดสอบเพื่อทำความรู้จักรถแข่งเฟอร์รารี่ หลังย้ายมาร่วมงานกับทีมในฤดูกาลนี้ โดยใช้รถแข่งสเป็คของปี 2018 และ 2019

สำหรับ เฟอร์รารี่ ประสบปัญหาอย่างหนักกับพละกำลังของเครื่องยนต์ในปี 2020 รวมถึง “แรงแดร็ก” ที่มากเกินไป ทำให้ประสิทธิภาพในทางตรงของพวกเขาเป็นรองคู่แข่งอย่างมาก

ทั้งนี้ มัตเทีย บิน็อตโต ทีมบอส เฟอร์รารี่ ได้ยืนยันว่าจากการทำงานอย่างหนักในช่วง “วินเทอร์” ทั้งในห้องวิจัย, ทั้งการขึ้นไดโน และในอุโมงก์ลม ทำให้พวกเขาเชื่อมั่นว่าได้แก้ปัญหาดังกล่าวได้แล้ว หลังมีการเปิดตัวเครื่องยนต์ใหม่ในปีนี้

วีดีโอที่เกี่ยวข้อง

มัตเทีย บิน็อตโต ทีมบอสของ เฟอร์รารี่ กล่าวในการเปิดตัวของทีมสำหรับฤดูกาล 2021 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยแสดงความมั่นใจถึงทิศทางที่ดีของทั้ง “เครื่องยนต์” และประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์

“ผมคิดว่าปีที่แล้วปัญหาหลักของเราคือความเร็วทางตรง มันไม่ใช่แค่เรื่องพละกำลังของเครื่องยนต์ แต่มันมีเรื่องแดร็กเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย” บิน็อตโต เผย

“เราทำงานอย่างหนักในเรื่อง เพาเวอร์ ยูนิต และระบบอากาศพลศาสตร์ เพื่อลดแรงลากของรถ (Drag)”

“และจากการจำลองการทำงานวันนี้ เราได้ข้อมูลพื้นฐานจากการขึ้นไดโน (วัดแรงม้า) และการทดสอบแรงกดของรถในอุโมงก์ลม ผมคิดว่าเราสามารถกู้คืนความเร็วทางตรงได้ค่อนข้างมาก”

“ดังนั้น ผมจึงหวังว่าความเร็วทางตรงจะไม่เป็นปัญหาอย่างที่ผ่านมา และเชื่อว่าเราจะสู้กับทีมอื่นๆ ได้ แต่เราจะรู้ก็ต่อเมื่อเดินทางไปที่ บาห์เรน แล้ว เพราะเราจะได้เห็นทิศทางของทีมอื่นๆ ด้วย”

“แต่ผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่าประสิทธิภาพรถแข่งของเรามีมากกว่าเดิม หากเทียบกับรถแข่งในปีที่ผ่านมา ทั้งเรื่องเครื่องยนต์ และอากาศพลศาสตร์”