ฟรานโก มอร์บิเดลลี รองแชมป์โลก โมโตจีพี จาก ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที เผย M1 2019 A-Spec ของเขามีปัญหาหับ “ช่วงล่างหลัง” ที่ไม่ทำงานตั้งแต่บนกริดสตาร์ท จนเกิดหายนะในเรซที่ กาตาร์ ชี้ต้องพึ่ง “ยามาฮ่า” ในการแก้ปัญหานี้ ก่อนเข้าสนาม 2 ชี้กัดฟันบิดจบเรซเพื่อให้เกียรติทีมงาน

หากจะพูดถึงหายนะของ “เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน รอสซี่ ในวันอาทิตย์แล้ว คนที่ “พัง” ยิ่งกว่าก็คงต้องเป็นรองแชมป์โลก ซึ่งเป็นทีมเมทของเขาอย่าง ฟรานโก มอร์บิเดลลี

มอร์บิเดลลี ได้ออกตัวจากกริดที่ 7 แต่เขาต้องร่วงลงไปถึงอันดับ 20 ในเวลาเพียง 4 รอบแรกของการแข่งขัน ก่อนจะทำได้ดีที่สุดเพียงอันดับ 18

“ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ ฟรานโก้ ผมคิดว่าเขาน่าจะมีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับรถแข่ง” รอสซี่ กล่าวถึงผลงานของ มอร์บิเดลลี

หลังจบเรซ มอร์บิเดลลี ได้ออกมาคอนเฟิร์มว่าเขามีปัญหาบางอย่างด้าน “เทคนิค” เกี่ยวกับรถแข่ง M1 2019 A-Spec ซึ่งหลังออกสตาร์ทเขารู้สึกว่า “ระบบช่วงล่างหลัง” ไม่มีการ “ยึด-หน่วง” เลย ส่งผลให้เขาช้าลงจากเดิมถึงรอบละ 1 วินาที

“เรามีปัญหาตั้งแต่อยู่บนกริดสตาร์ท แต่เราตัดสินใจที่จะทำยังไงก็ได้ที่จะลงแข่งขัน” มอร์บิเดลลี กล่าว

“มันเป็นปัญหาที่เราจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกที เพราะผมคิดว่ามันเกิดขึ้นมาแล้วในระหว่างสุดสัปดาห์ แต่ในการแข่งขันเราเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันไม่ใช่ทิศทางที่ควรจะเป็น โชคไม่ดีที่เราเจอเรซที่แย่มากๆ”

“มันส่งกระทบต่อตัวผมมากระหว่างการแข่งขัน ผมไม่สามารถบอกคุณได้ว่ามันคือะไร เพราะเราเองก็ยังไม่ชัวร์เหมือนกัน เรากำลังพยายามทำความเข้าใจกับมันอยู่ว่า ปัญหา นี้คืออะไรกันแน่”

“โดยพื้นฐานแล้ว ในการแข่งขันผมรู้สึกว่าส่วนท้ายของรถมันว่างเปล่า เหมือนไม่มีแรงยึด-หน่วงของช่วงล่างเลย”

“เมื่อเกิดปัญหาขึ้นแบบนี้ ผมไม่สามารถเข้าโค้งได้เลย มันทำให้ผมช้าลงรอบละ 1 วินาที ผมสามารถเร่งออกจากโค้งในช่วงทางตรงได้ดี แต่พอเข้าโค้งเราก็พังเหมือนเดิม”

“นั่นคือสิ่งที่ผมเจอในเรซ เรายังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัด เรากำลังพยายามอย่างมากที่จะทำความเข้าใจและวิเคราะห์มัน ผมมั่นใจว่าวิศวกรของ ยามาฮ่า จะช่วยเราได้”

แม้จะจบการแข่งขันเป็นคนสุดท้าย แต่ มอร์บิเดลลี ก็ตัดสินใจที่จะบิดจนจบเรซ เพราะเป็นการให้เกียรติกับทีมงานทุกคนที่ทำงานอย่างหนักให้ตัวเขา และ เพื่อเป็นการศึกษาข้อมูลให้มากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่า ปัญหาของ มอร์บิเดลลี อาจเกิดจากอุปกรณ์ปรับระดับความเตี้ยของช่วงช่างหลัง ซึ่ง มอร์บิเดลลี ระบุว่าปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลากลางวันที่อากาศร้อนๆ นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเขาถึงทำเวลาได้เร็วที่สุดใน FP1 และ FP3

วีดีโอที่เกี่ยวข้อง 👇👇👇