“เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน รอสซี่ นักบิดอิตาเลียนวัย 42 ปี ยอมรับว่าเจอ “วิกฤติ” อย่างหนักกับรถแข่ง M1 ภายใต้สังกัด ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที หลังจบการซ้อมด้วยอันดับ 21 จากวันแรกของ โมโตจีพี ที่ มูเจลโล

รอสซี่ ชนะการแข่งขันที่ มูเจลโล 7 ปีติดต่อกัน ระหว่างฤดูกาล 2002-2008 ได้ออกมายอมรับว่า “อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์” ในฤดูกาลนี้จะมีความสำคัญอย่างมาก ต่อการตัดสินใจในอนาคตของเขาเอง กับ โมโตจีพี 2022 หลังเก็บมาได้เพียง 9 คะแนน จาก 5 สนามแรกของปีนี้

ทว่าจากการซ้มอวันแรก รอสซี่ กลับเจอปัญหาอย่างหนักในวันศุกร์ หลังทำได้เพียงอันดับ 17 ในรอบ FP1 ตามผู้นำ 1.5 วินาที แถมในรอบ FP2 ก็ปรับปรุงเวลาได้เพียงเล็กน้อย ทำได้เพียงอันดับ 21 จากเวลารวมของวันแรก

นักบิดอิตาเลียนกล่าวว่าเขามีปัญหาอย่างหนักเกี่ยวกับ “ระบบเบรก” และไม่สามารถใช้ความเร็วในโค้งได้กับรถแข่ง M1 ที่มูเจลโล ซึ่งต้องการความไหลลื่นอย่างมาก

“มันเป็นวันที่ยากมากสำหรับผม โดยเฉพาะช่วงบ่าย นั่นอาจเป็นเพราะเราเลือกออกสตาร์ทด้วยยางฮาร์ด และมันก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ถูกต้อง เนื่องจากไม่มีกริ๊ปที่ดีพอ” รอสซี่ กล่าว

“ยังไงก็ตาม ผมใส่ยางซอฟท์หลังลงไปบิด 2-3 รอบ ผมปรับปรุงเวลาได้ดีขึ้น แต่อันดับมันก็ยังแย่อยู่”

“ผมไม่มีฟีลลิ่งที่ดีเลยกับรถแข่ง เพราะเจอปัญหาที่ระบบเบรกในการหยุดรถแข่ง และการพลิกรถสลับโค้งก็ทำได้ช้า”

“ที่นี่มันสำคัญมากที่จะต้องทำสิ่งนั้น และต้องทำงานเพื่อปรับปรุงมันให้ได้”

“ที่นี่การเบรกในโค้ง 1 สำคัญมาก แต่สำหรับผมมันเป็นเรื่องยากที่จะหยุดรถ โดยเฉพาะจะแรกที่ต้องปั๊มป์เบรก”

“เอาละ, ดังนั้นเราจะต้องทำงานหนักกับ บาลานซ์ ของรถแข่ง และ เอ็นจิ้นเบรก”

วีดีโอที่เกี่ยวข้อง 👇👇👇