มาร์ค มาร์เกซ นักบิดต่างดาวจาก เรปโซล ฮอนด้า ยอมรับว่ารถแข่ง RC213V ในปีนี้เป็นรถที่ควบคุมได้ยาก แต่สัมผัสได้ว่า “เป็นรถแข่งที่สามารถคว้าชัยชนะได้” ขณะที่ต้องเปลี่ยนการทำงานจนกลายเป็น “คนละคน” จากที่ผ่านมา

มาร์เกซ กำลังเข้าสู่การแข่งขันแบบ 2 สัปดาห์ติดต่อกันเป็นครั้งแรก หลังคัมแบ็กจากอาการบาดเจ็บร่วม 9 เดือน ที่ ปอร์ติเมา

คาตาลุนญ่า นับเป็นโฮมเรซสนามที่ 2 ของ มาร์เกซ ในฤดูกาลนี้ต่อจาก เฆเรซ เมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งจากผลการแข่งขันล่าสุดนักบิดสแปนิชไม่สามารถจบเรซทั้งที่ เลอมองส์ และ มูเจลโล

มาร์เกซ ที่เราเห็นในปี 2021 ขณะนี้ยังไม่ใช่นักบิดที่จะสามารถคว้าชัยชนะได้อย่างที่แฟนๆ ทั่วโลกคุ้นเคย ทว่าเขากลับมองเห็นสัญญาณว่า “รถแข่งฮอนด้า” แพ็คเกจปี 2021 จะสามารถคว้าชัยชนะได้

มาร์ค มาร์เกซ เป็นหนึ่งในนักบิดที่เข้าร่วมการแถลงข่าวก่อนแข่ง คาตาลัน กรังด์ปรีซ์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

มาร์เกซ เผยว่า “ใช่ครับ, รถแข่งฮอนด้าปีที่แล้วขี่ยากมาก แต่มันคือรถที่สามารถชนะการแข่งขันได้ และผมคิดว่าในตอนนี้ก็ยังคงอยู่ในระดับเดียวกัน”

“มันคือรถแข่งที่ขี่ยาก เรายังมีจุดอ่อนบางอย่าง แต่ถ้าพูดถึงเรื่องศักยภาพแล้วมันคือหนึ่งในรถแข่งที่จะเป็นผู้ชนะได้”

“ความจริงคือผมไม่สามารถอยู่บนแทร็กได้ในปีที่ผ่านมา แม้ว่า คาล ครัทช์โลว จะอยู่บนแทร็กแต่ก็ไม่ได้อยู่ในระดับสูงสุด ดังนั้น…เราอาจต้องยอมพ่ายแพ้ 1 ปี เพื่อสานต่อการพัฒนา และเพื่อรักษาระดับการต่อสู้ให้เทียบเท่าคู่แข่ง”

“แต่ ฮอนด้า ก็กำลังทำงานกันอย่างหนักเพื่อปรับปรุง และพยายามมอบทุกสิ่งที่ดีที่สุดให้นักบิดทุกคน มอบรถแข่งที่ดีกว่าเดิม และเป็นรถแข่งที่ควบคุมได้ง่าย”

แชมป์โลก 8 สมัยยังพูดถึงการเปลี่ยนแปลงระดับในการซ้อมหนึ่งวัน ก่อนเข้าสู่การลงบิดรถแข่ง ภายใต้ “แพ็คเกจ” ของ RC213V ที่ตัวเขาเองยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้

“ตั้งแต่ผมคัมแบ็กมันยังคงเป็นเรื่องยากเสมอ และยากที่จะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นบนแทร็กเมื่ออยู่บนรถแข่ง

“ผมหมายความว่า… ผมเริ่มที่จะมีส่วนในการเซ็ตอัพรถแข่งเล็กน้อย หรือพยายามทดลองชิ้นส่วนใหม่ที่ ฮอนด้า และนักบิดคนอื่นๆ ใช้จากปีที่ผ่านมา” มาร์เกซ กล่าว

“แต่เมื่อผมลงบิดรถแข่ง ผมยังไม่เข้าใจอะไรนัก ผมกลับมาลงบิดรถแข่งสแตนดาร์ดของตัวเอง คือรถแข่งที่ผมใช้ในปี 2020 ที่ เฆเรซ มันก็ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจมากนัก”

“ดังนั้น… อย่างที่ผมบอกก่อนหน้านี้ ผมต้องการเพิ่มระยะทางการลงบิดรถแข่ง ประเมินกันอย่างต่อเนื่อง และตอนนี้ก็กำลังค่อยๆ ปรับปรุงรถแข่งอย่างมาก ปรับปรุงกันแบบเสิ้ยววินาทีต่อเสี้ยววินาที โดยเฉพาะด้านฟีลลิ่งของร่างกายตอนที่ยังสดๆ และเริ่มล้า”

“มันคือสิ่งที่ในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยปกติแล้วผมจะไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะสามารถที่จะบิดในแนวทางเดียวกันได้ต้องแต่รอบ FP1 ไปจนถึงวันแข่งขัน ส่วนในตอนนี้ตลอดสุดสัปดาห์ ผมต้องเปลี่ยนวิธีการทำงานไปในแบบที่แตกต่างจากเดิม”

“กลายเป็นคนละคนเลย”

วีดีโอที่เกี่ยวข้อง

วีดีโอจาก Autohours.com 👇👇👇