นี่คือวันแห่งการทดสอบที่สำคัญอย่างเหลือเชื่อของ นักบิดฮอนด้าทุกคน… สำหรับการเทสต์ที่ บาร์เซโลน่า ซึ่งเป้าหมายสำคัญคือลบข้อบกพร่องของ RC213V ให้ได้ หลังผลงานสุดบู่ใน โมโตจีพี 2021

มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลก 6 สมัย จาก เรปโซล ฮอนด้า กล่าวหลังการแข่งขัน คาตาลัน กรังด์ปรีซ์ เมื่อวันอาทิตย์ว่า “การทดสอบในวันจันทร์ที่ เซอร์กิต เดอ บาร์เซโลร่า-คาตาลุนญ่า มีความสำคัญกว่าการแข่งขันเสียอีก”

ซึ่งนั่นก็แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจน ผ่านการทำงานอย่างหนักตลอดทั้งวันของนักบิดฮอนด้าทุกคน…

มาร์เกซ ลงแทร็กไปทดสอบด้วยรถแข่งสีดำทั้งคัน หนึ่งในนั้นคือรถแข่งที่ติดตั้งข่องดักลมในแฟริ่ง หรือ “แอร์ อินเทค” ที่แตกต่างกัน ลงบิดทดสอบบางรอบ นอกจากนี้ ยังลงไปทดสอบกับ “แอโร แพ็คเกจ” ที่แตกต่างกัน 2 แบบ ตลอดทั้งวัน

ขณะที่ทีมเมทอย่าง โปล เอสปาร์กาโร ลงทดสอบรถแข่ง RC213V เวอร์ชั่น 2021 ตลอดทั้งวัน โดยพยายามทดลองเซ็ตติ้งหลายแบบ โดยหวังที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงต้นฤดูกาลนี้

นอกจากนี้ เอสปาร์กาโร ได้ลองใช้ “แอโร แพ็คเกจ” ใหม่ อย่างน้อยหนึ่งแบบรวมถึง “ดิสค์เบรกใหม่” ของ เบรมโบ้ ก่อนจะพลาดล้มที่โค้ง 9 แต่ก็ไม่มีผลใดๆ ต่อการทำงานของเขาที่ บาร์เซโลน่า

ในการทดสอบที่ บาร์เซโลน่า ต้องโฟกัสไปที่การลงบิดมากถึง 87 รอบสนามของ มาร์ค มาร์เกซ มากที่สุดหากเทียบกับนักบิดทุกคน และหากมองย้อนไปถึงการทดสอบที่ เฆเรซ “นักบิดต่างดาว” ลงบิดไปเพียง 10 รอบสนาม เพื่อรักษาสภาพร่างกายสำหรับการแข่งขันต่อที่ เลอมองส์…

ดังนั้น จึงสามารถบ่งบอกถึงสัญญาณการฟื้นตัวปัญหาที่ ไหล่ขวา และแขนของ มาร์ค มาร์เกซ ที่เริ่มหมดลงเรื่อยๆ ซึ่งนับเป็นข่าวดีอย่างมากต่อแฟนๆ ของ มาร์ค มาร์เกซ และ HRC รวมถึงแฟนโมโตจีพีทั่วโลก โดยเขาทำเวลาเป็นอันดับ 11 ของการทดสอบ ตามหลัง มาเวริค บีญาเลส ผู้นำจาก ยามาฮ่า อยู่ 0.6 วินาที

ด้าน ทาคาอากิ นาคากามิ นักบิดญี่ปุ่นจาก แอลซีอาร์ ฮอนด้า ขึ้นนำบนตารางเวลาช่วงบ่าย 2-3 ชั่วโมง โดยเขามีรถแข่งปี 2020 และ 2021 อย่างละคันอยู่ในการาจ

ส่วนทีมเมทอย่าง อเล็กซ์ มาร์เกซ ลงทดสอบ “แอโร แพ็คเกจ” ที่แตกต่างกัน 2-3 แบบ เช่นเดียวกับที่ โปล เอสปาร์กาโร ใช้สลับเข้าออกในรถแข่งปี 2021 โดย นาคากามิ จบอันดับ 3 ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีของเวลาต่อรอบ ส่วน อเล็กซ์ มาร์เกซ จบอันดับ 15 หลังลงทดสอบไป 70 รอบสนาม

ปัญหาใหญ่หลักๆ ของ ฮอนด้า นับตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2020-2021 พวกเขาเจอความไม่มีสเถียรภาพของแชสซีส์ทั้ง 2 ปี กอปรกับการทำงานร่วมกับ แอโร แพ็คเกจ ที่ยังไม่ลงตัว ทำให้ไม่สามารถสร้างบาลานซ์รถแข่งที่ดีได้

อย่างไรก็ดี ในการแข่งขันสนามต่อไปที่ ซัคเซนริง นับเป็นหนึ่งในสนามที่ต้องพึ่งพา “แอโร แพ็คเกจ” อย่างมาก และเป็นหนึ่งในแทร็กที่ มาร์ค มาร์เกซ ถนัดและคว้าชัยชนะมาได้อย่างต่อเนื่อง ต้องมาติดตามว่า ฮอนด้า จะสามารถอัพเกรดรถแข่งให้ดีเพียงพอที่จะยกระดับผลงานขึ้นมาได้แค่ไหน?

วีดีโอที่เกี่ยวข้อง