มาร์ค มาร์เกซ นักบิดสแปนิชจาก เรปโซล ฮอนด้า เผย “โมโห” ตัวเองที่พลาดล้มกับ “ยางซอฟท์” ในช่วงท้ายการซ้อมรอบ FP2 ขณะเดียวกันก็ “ภาวนา” ให้สภาพแทร็กแห้งในรอบ FP3 เพื่อสร้างโอกาสตี๖วเข้าสู่ Q2 แบบอัตโนมัติที่ มันดาลิกา

มาร์เกซ พลาดสไลด์ล้มไปอย่างรุนแรงในรอบ FP2 ที่โค้ง 11 ของ มันาลิกา ขณะที่เขากำลังทำเวลาต่อรอบติดท็อปเท็น ทว่าจากการล้มดังกล่าวทำให้ร่วงลงไปจบวันแรกในอันดับ 22

ขณะเดียวกัน “พยากรณ์อากาศ” ระบุว่าจะมีฝนตกลงมาในช่วงเช้าวันเสาร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำเวลาในรอบ FP3

“ใช่ครับผมล้ม… และก็ไม่มีเวลาต่อการล้มดังกล่าว” มาร์เกซ เผยเมื่อวันศุกร์

“แต่เมื่อคุณเค้นหนักๆ ในรอบเดียวเพื่อการหาเวลาต่อรอบ มันก็เกิดขึ้นได้ แต่ผมก็โมโหมากที่ล้มกับยางซอฟท์”

“มันคือเรื่องจริงที่โดยรวมแล้ว ทั้งวันนี้ผมค่อนข้างแฮปปี้ แต่เมื่อเราล้ม นั่นทำให้เราไม่สามารถที่จะมีความสุขได้เลย เพราะเราหลุดออกจากท็อปเท็น และไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้”

“แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม ตอนนี้ผมได้แต่ภาวนาให้แทร็กแห้ง หวังให้ฝนไม่ตก เพื่อสร้างโอกาสพยายามเข้าสู่ท็อปเท็นให้ได้”

ขณะที่ โปล เอสปาร์กาโร ซึ่งจบวันแรกในอันดับ 19 ยอบรับว่ามีปัญหาอย่างหนักกับเบรกหน้า

“ผมแทบไม่มีเบรกหน้าห้ใช้งาน โดยเฉพาะในรันสุดท้ายเมื่อใส่ยางใหม่ลงไปวิ่ง นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมโมโห เพราะหากพรุ่งนี้ฝนตก เราจะหลุด Q2”

“ดังนั้น นี่จึงเป็นโอกาสสุดเดียวเพื่อเข้าสู่ Q2 และผมก็ทำเวลาติดท็อปทรีด้วย แต่ปัญหาที่เบรกหน้าก็มาหยุดเราไว้”

ขณะที่ มาร์เกซ กล่าวถึงการทำงานกับรถแข่ง RC213V ว่า “เราปลี่ยนเซ็ตติ้งเล็กๆ น้อยๆ เพื่อปรับให้เข้ากับสไตล์การบิดของผมในรอบ FP2 ทำให้ผมเริ่มรู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆ”

“เป็นเรื่องจริงที่เราใช้รถแข่งอีกคันในรันสุดท้าย แต่มันไม่ได้เลวร้ายเลยนะ ดูเหมือนเราจะเริ่มเข้าถึงส่วนหน้าของรถ และความมั่นใจกับส่วนหน้าของรถแข่งก็ค่อยๆ มา”

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญสำหรับสุดสัปดาห์นี้ที่ มันดาลิกา คือ มิชลิน ตัดสินใจนำ “ปลอกยางพิเศษ” ที่แข็งขึ้นในยางหลัง เพื่อให้ทนต่ออุณภูมิสูงและผิวแทร็กใหม่ ซึ่งเคยใช้มาแล้วใน “บุรีรัมย์” เมื่อปี 2018

การนำปลอกหุ้มดังกล่าวมาใช้ “อาจช่วยเรื่องอายุการใช้งาน” แต่นักบิดส่วนใหญ่มองว่าส่งผลให้ “ขาดการยึดเกาะที่ดี” หากเทียบกับสเป็คยางปกติ

วีดีโอที่เกี่ยวข้อง 👇👇👇