“เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร แชมป์โลกโมโตจีพีชาวฝรั่งเศสจาก มอนสเตอร์ ยามาฮ่า ออกโรงยอมรับว่า “หมกมุ่นและตำหนิมากเกินไป” เกี่ยวกับ “ท็อปสปีด” ของรถแข่ง M1 ช่วงต้นฤดูกาลซึ่งทำให้ “เสียสมาธิ” อย่างมาก

กวาร์ตาราโร ออกมาเรียกร้องเกี่ยวกับการ “ขาดความเร็วสูงสุด” ของรถแข่งยามาฮ่า โดยเฉพาะกับพละกำลังของเครื่องยนต์นับตั้งแต่การทดสอบหลังจบฤดูกาล 2021 ที่ เฆเรซ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และยอมรับระหว่างการทดสอบในเดือนกุมภาพันธ์ว่า “มีความคืบหน้าน้อยมาก” กับรถแข่ง M1 ซึ่งเชื่อมโยงกับอนาคตของเขาในปี 2022 ด้วยเช่นกัน

ในการแข่งขันช่วงแรก กวาร์ตาราโร ต้องดิ้นรนอย่างมากในการสร้างผลงานที่ดี เพราะเปิดฉากก็คว้าได้เพียงอันดับ 9 ที่ กาตาร์, อันดับ 8 ที่ อาร์เจนติน่า และอันดับ 7 ที่ ออสติน ก่อนจะโยกกลับไปแข่งขันในยุโรป ทำให้เขาคว้าชัยชนะครั้งแรกได้ 

เมื่อย้อนกลับไปประเมินถึงครึ่งทางแรกของฤดูกาล ก่อนเข้าสู่ ดัตช์ กรังด์ปรีซ์ ซึ่งเขาพลาดล้ม กวาร์ตาราโร ยอมรับว่า “การบ่น” ของเขาในช่วงแรกๆ ทำให้เสียสมาธิอย่างมาก และการเปลี่ยนความคิดของตนเองที่ โปรตุเกส ก็ช่วยให้ผลงานพัฒนาขึ้น

“แน่นอนครับ… ว่ามันเป็นครึ่งฤดูกาลแรกที่ยอดเยี่ยม” กวาร์ตาราโร ที่รั้งจ่าฝูงเหนือ อเลช เอสปาร์กาโร คู่แข่งจาก อพริเลีย 21 คะแนน

“กาตาร์, อาร์เจนติน่า และ ออสติน คือมันยากมาก ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นอย่างที่ผมบอกไปหลายครั้งแล้วว่า ผมบ่นมากเกินไป จุกจิกมากไปหน่อยเกี่ยวกับท็อปสปีด นั่นทำให้ผมไม่ได้มีสมาธิกับการขี่ของตัวเอง”

“จากนั้น… เมื่อเราเดินทางมาถึงยุโรป ผมเริ่มสามารถจดจ่อกับการขี่ของตัวเองได้”

“ผมทำผลงานได้ยอดเยี่ยม และแน่นอนว่าตั้งแต่ โปรตุเกส จนถึงตอนนี้เราได้ขึ้นโพเดี้ยมเกือบทุกครั้ง เพราะที่ เลอมองส์ เราจบที่ 4” 

“แต่ผมคิดว่าเรามีการแข่งขันที่เยี่ยมมากใน 10 เรซ แถมคะแนนสะสมยังเท่ากันกับปีที่แล้ว จากจำนวนสนามที่เท่ากันอีกด้วย”

ทั้งนี้ กวาร์ตาราโร ได้บรรลุข้อตกลงต่อสัญญากับ ยามาฮ่า ออกไปแล้ว 2 ปี นั่นจะทำให้เขาอยู่กับทีมไปจนถึงสิ้นฤดูกาล 2024 ขณะที่ต้นสังกัดได้มีการขยับตัวดึงอดีตวิศวกรฟอร์มูล่าวัน เข้ามาเพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพของเครื่องยนต์และความเร็วทางตรง