Advertisement

อเล็กซ์ รินส์ ยอดนักบิดสแปนิชยืดอกรับว่า “หวาดกลัว” สำหรับอนาคตของตนเอง หลังจากที่ต้นสังกัดอย่าง “ซูซูกิ” ประกาศอำลา โมโตจีพี สิ้นฤดูกาลนี้ เผยจินตนาการไม่ออกหากไม่ได้ลงบิดด้วย “รถโรงงาน” 

ผู้ชนะการแข่งขัน โมโตจีพี 3 ครั้ง กลายมาเป็นหนึ่งในตัวแปรของตลาดนักบิด โมโตจีพี 2023 อย่างไม่คาดคิด หลังจากที่ ซูซูกิ แจ้งให้ทราบว่าจะไม่ส่งทีมลุยต่อในฤดูกาลหน้า

รินส์ มีชื่อเชื่อมโยงกับหลายทีม รวมถึง เคทีเอ็ม, เกรซินี ดูคาติ และ แอลซีอาร์ ฮอนด้า ซึ่งท้ายที่สุดกลายมาเป็นคู่สัญญา 2 ปี เพื่อร่วมงานกันในฤดูกาลหน้า

ซึ่งสัญญาของ รินส์ นั้นเป็นการเซ็นตรงกับ HRC

ในการให้สัมภาษณ์แบบส่วนตัวกับ Motorsport.com, รินส์ ยอมรับว่ากลัวอนาคตของตนเอง หลังได้ยินข่าวนี้เป็นครั้งแรก และสิ่งที่เขากังวลมากที่สุดคือ การที่จะไม่ได้ลงบิดรถโรงงานลงแข่งขันอีกต่อไป

“ผมทำงานหนักขึ้นในทุกๆ ปี” รินส์ กล่าว

“และคุณรู้ไหม? ผมรู้สึกกลัวนิดหน่อยเมื่อ ซูซูกิ ประกาศเลิกทำทีม โมโตจีพี เพราะผมไม่ใช่นักบิดรุกกี้ และผมก็พยายามมองหารถแข่งโรงงาน โชคดีที่เราสามารถสรุปข้อตกลงได้”

“แต่เอาตามตรงนี้ครับ ผมกลัวนิดหน่อย เพราะมันไม่ง่ายเลย” 

“มันเป็นเรื่องน่ายินดีมาก ที่ได้ทำสัญญากับค่ายผู้ผลิตอย่าง ฮอนด้า”

“แน่นอน… หากผมเซ็นสัญญากับ ลูซิโอ เชซคิเนลโล กับรถแข่งที่ไม่ใช่สเป็คโรงงาน มันก็โอแคอยู่แหละ หากมันเป็นทางเลือกเดียวที่ผมทำได้”

“แต่ผมโคตรดีใจเลย เพราะผมจะไม่ได้เห็นตัวเองขี่รถแข่งที่ไม่ใช่สเป็คโรงงาน”

“ขอผมอธิบายหน่อย ผมคิดว่าผมมีประสบการณ์สูงมาก มีความสามารถที่จะพัฒนารถแข่งได้ ดังนั้น การที่จะไม่ได้เห็นตัวเองขี่รถโรงงาน มันคงเป็นเรื่องที่ยากจะอธิบาย”

ทั้งนี้ ปัจจุบัน ฮอนด้า มีรถแข่งใน โมโตจีพี 4 คัน ซึ่งล้วนเป็นรถแข่งสเป็คโรงงานทั้งหมด แต่อาจมีการเซ็ตอัพและอุปกรณ์บางอย่างที่แตกต่างกันไป

โดยฤดูกาลหน้า รินส์ จะได้ร่วมงานกับนักบิดอีกคนภายใต้สังกัด แอลซีอาร์ ฮอนด้า อิเดมิตสึ ซึ่งยังไม่มีการยืนยันว่าจะยังคงเป็น ทาคาอากิ นาคากามิ หรือเปลี่ยนตัวผลักดันนักบิดโมโตทูอย่าง อาอิ โอกุระ