ทาาอากิ นาคากามิ ยอดนักบิดญี่ปุ่นออกโรงกดดัน ฮอนด้า ค่ายผู้ผลิตจากแดนอาทิตย์อุทัย เพื่อเรียกร้องให้ป้อนรถแข่งสเป็คโรงงานให้กับตนเอง ในการบิด โมโตจีพี ฤดูกาล 2020 ชี้หากต้องการผลงานที่ดีให้ประเทศก็ต้องมีรถที่ดี

นาคากามิ เป็นนักบิด ฮอนด้า เพียงคนเดียวที่ใช้รถแข่งสเป็คปี 2018 ในปีนี้ ขณะที่ทีมเมทของเขาอย่าง คาล ครัทช์โลว ใช้รถแข่ง RC213V สเป็คปี 2019 เหมือนกับ มาร์ค มาร์เกซ และ ฮอร์เก ลอเรนโซ สองนักบิดทีมโรงงาน เรปโซล ฮอนด้า

“จนถึงตอนนี้ ผมก็ยังไม่ได้รับข้อตกลงใดๆ จาก ฮอนด้า” นาคากามิ เผย

“สิ่งที่ผมผลักดันไม่ใช่เพื่อรถแข่งโรงงานสเป็คเต็ม แต่อย่างน้อยก็ควรมีสถานการณ์เดียวกันกับ คาล (ครัทช์โลว)”

“ตอนนี้ยัมีเวลาอยู่ 2-3 สัปดาห์ แต่เร็วๆ นี้ผมคิดว่าเราต้องตัดสินใจบางอย่าง แต่แน่นอนผมจะต่อสู้จนถึงนาทีสุดท้าย”

“นักบิดส่วนใหญ่ใน โมโตจีพี ต่างก็ได้ใช้รถโรงงาน ผมไม่ได้หมายความว่ารถแข่งสเป็คเดิมมันไม่ดี แต่รถแข่งส่วนใหญ่ได้รับการพัฒนา และแก้ไขจากเดิมอย่างมาก”

“ในตอนนี้คุณจะเห็นได้ว่า ระยะห่างจากอันดับ 1 ถึง 15 หรือ 16 นั้นเวลาต่างกันเพียง 1 วินาทีเท่านั้น ดังนั้นทุกๆ เสี้ยววินาทีมีความหมายที่จะทำให้คุณเสียไปถึง 5-6 อันดับ”

“ผมเข้าใจ HRC แต่ผมก็ต้องผลักดันความเห็นคิดเห็นผมเช่นกัน”

Motorsport.com ยิงคำถามต่อ นาคากามิ ว่า หากได้รถแข่งสเป็คทีมโรงงานในปีนี้ คิดว่าผลงานจะออกมาอย่างไร

นักบิดญี่ปุ่น ตอบว่า “ก็ครึ่ง-ครึ่งนะ มันไม่ถึงกับร้อยเปอร์เซ็นต์ที่จะดีไปเสียหมด บางเรซมันจะออกมาดี บางเรซเราอาจต้องปรับปรุงมันนิดๆ หน่อยๆ”

“ในความรู้สึกผมมัน 50/50 เพราะสองเรซต่อไปนี้ ทั้งที่นี่ เบอร์โน และ เรดบูลล์ ริง มันสำคัญต่อคะแนนบนแชมเปี้ยนิชพของผมมาก และสำคัญกับอนาคตของผมด้วยเช่นกัน”

นาคากามิ ซึ่งรั้งอันดับ 12 บนตารางแชมเปี้ยนชิพในปัจจุบัน กล่าวว่าการที่เขสาเป็นนักบิดญี่ปุ่น เพียงคนเดียวใน โมโตจีพี ทำให้เขามีอำนาจต่อรองบางอย่างกับ ฮอนด้า

“ตอนนี้มีนักบิดดาวรุ่งญี่ปุ่นมากมายทั้งใน โมโตทรี  แต่ใน โมโตทู มีเพียง เท็ตซึ นากาชิม่า และใน โมโตจีพี ก็มีผมเพียงคนเดียว มันยากสำหรับการทำการตลาดใน ญี่ปุ่น”

“หากเราต้องการยกระดับผลการแข่งขัน เราจำเป็นต้องได้รถแข่งที่ดี นี่คือความคิดของผม ดังนั้นเราต้องรอดูว่า ฮอนด้า จะคิดอย่างไร”