“เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน รอสซี่ ซูเปอร์สตาร์โมโตจีพีชาวอิตาเลียนวัย 40 ปี เปิดอกอย่างหมดเปลือกถึงการตัดสินใจว่าจะ “รีไทร์” หรือ “แข่งต่อ” พร้อมออกอาการหวั่นไหวกับช่วงเวลาที่บีบคั้น ชี้ตลาดซื้อขายนักบิด 2021 จะขยับตัวเร็วขึ้น หวังได้แชร์กริดกับน้องชายอย่าง ลูก้า มารินี ในพรีเมียร์คลาส

แชมป์โลกพรีเมียร์คลาส 7 สมัย อยู่ภายใต้สัญญากับทีมโรงงานยามาฮ่าไปจนถึงสิ้นปี 2020 แต่จากกระแสข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้น มีแนวโน้มว่าตลาดซื้อขายนักบิดปี 2021 จะเริ่มต้นขยับขึ้นอย่างรวดเร็วและเข้มข้นในช่วงต้นปี 2020

รอสซี่ จำเป็นต้องเร่งตัดสินใจอนาคตของเขาอย่างรวดเร็ว ในช่วงต้นปี 2020 กับการพัฒนาแคมเปญรถแข่งในปี 2020 ซึ่งจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าฤดูกาลหน้า จะเป็นปีสุดท้ายของนักบิดอิตาเลียนใน โมโตจีพี หรือไม่?

ทั้งนี้ จอมเก๋าอิตาเลียนวัย 40 ปี ไม่ได้ตัดโอกาสของตนเองในการบิดโมโตจีพีต่อไปในปี 2021 แต่เจ้าตัวก็ยอมรับว่าช่วงเวลาที่กระชั้นชิด และสภาพจิตใจของเขาเองจะต้องตัดสินใจเร็วกว่าที่ควร

“สำหรับผมมันมีปัญหาอยู่นิดหน่อย เพราะในปีหน้าตลาดนักบิดจะเริ่มขยับตัวเร็วๆ นี้ บางทีมันอาจจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้นี่แหละ” รอสซี่ กล่าวถึงตลาดนักบิดในมุมมองของเขา

“มันยากมากที่จะเริ่มต้นคิดเกี่ยวกับปี 2021 ในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล 2020”

“ความจริงที่ว่าเรามักจะต้องเซ็นสัญญา 2 ปี เรื่องเวลามันไม่เลวเลยแหละ แต่ปัญหาคือเราจะต้องมีโอกาสได้ดู และได้รู้ว่าสิ่งต่างๆ จะดำเนินไปทางไหน อย่างน้อยๆ ก็สัก 6 เรซแรกของปี”

“มันยากมากที่จะมองออกว่าใครจะแข็งแกร่งใน โมโตจีพี หรือใครจะขยับขึ้นมาจาก โมโตทู สู่ พรีเมียร์คลาส”

“แต่ตอนนี้มันก็เป็นเหมทือนกีฬาอื่นๆ เช่น ฟอร์มูล่าวัน ซึ่งระดับของความเป็นมืออาชีพนั้นสูงกว่าเราเล็กน้อย”

รอสซี่ คว้าแชมป์ครั้งสุดท้ายได้ที่ แอสเซ่น ปี 2017

รอสซี่ กล่าวเพิ่มเติมถึงข้อเท็จจริงอีกอย่าง ที่ทำให้เขาอยากขยายการทำงานกับ ยามาฮ่า ออกไปอีก นั่นคือโอกาสที่จะได้ลงบิดร่วมกับน้องชายอย่าง ลูก้า มารินี ใน โมโตจีพี 2021

มารินี ได้พิสูจน์ตนเองในฐานะผู้ชนะหลายเรซในการแข่งขัน โมโตทู กับสังกัดของ รอสซี่ อย่าง VR46 และรั้งอันดับ 6 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ หลังคว้าชัยชนะ 2 สนามติดต่อกันที่ ประเทศไทย และ ญี่ปุ่น

“มันจะเป็นเรื่องดีมาก เพราะมันจะถือเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์สุดๆ” รอสซี่ กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่ มารินี จะก้าวขึ้นมาบิดใน โมโตจีพี สำหรับอนาคต

“สิ่งสำคัญคือ ลูก้า จะสามารถทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องหรือไม่ในช่วงสนามที่เหลือของฤดูกาลนี้ และในฤดูกาลหน้า เพราะหากเขาทำได้ มันจะทำให้เขาสามารถมีตัวเลือกที่ดีทั้งทีม และรถแข่งที่ดีใน โมโตจีพี 2021”

“และหากผมยังบิดอยู่ มันจะเเจ๋งสุดๆ ไปเลยละ”

ออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์ ปีนี้จะเป็นเรซที่ 400 ของ รอสซี่ ในทุกคลาส

สำหรับ การแข่งขัน ออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์ จะเป็นการออกสตาร์ทเรซที่ 400 ในชีวิตของเขาในทุกคลาส ภายใต้ระยะเวลามากกว่า 23 ปี นับตั้งแต่เริ่มต้นแข่งขันในรุ่น 125 ซีซี ในปี 1996

“ผมแข่งมานานแล้ว” รอสซี่ เปรย

“สิ่งที่สร้างความแตกต่างให้ผมคือ ผลการแข่งขัน เมื่อคุณยังสามารถทำผลงานได้ดี ยังคงต่อสู้เพื่อชัยชนะและโพเดี้ยมได้ ไม่ว่าจะแข่งมานานแค่ไหนมันก็ไม่สำคัญ”

“แต่เมื่อคุณอยู่ในช่วงเวลายากลำบากเช่นนี้ (ฟอร์มที่ไม่ดี) ทุกอย่างจะยากขึ้น แต่ผมก็ยังคงต้องการที่จะแข่งต่อไปอีกสักพักหนึ่ง”