“คิงคองก้อง”​ สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย เปิดเผยหลังจบการแข่งขัน โมโตทู ฤดูกาลแรกใชีวิตว่าได้เรียนรู้การทำงานระดับโลกมากมาย โดยตั้งเป้าพัฒนาตนเองเพื่อขยับขึ้นไปติดท็อป 5 ให้ได้ในปีหน้า พร้อมกล่าวถึงความฝันว่าอยากขึ้นไปบิดในพรีเมียร์คลาสให้ได้

นักบิดไทยวัย 21 ปี สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในปีแรกกับการแข่งขัน โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ แบบเต็มฤดูกาล โดยสามารถขยับขึ้นไปออกสตาร์ทแถวหน้าได้ 1 ครั้ง และซิวท็ฮปเท็นได้อีกครั้งในโฮมเรซ

นอกจากนี้ ในช่วงพักฤดูกาล สมเกียรติ ยังเข้าร่วมแข่งขันในศึก เอ็นดูรานซ์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2019/2020 สนาม 2 รายการ เซปัง 8 ชั่วโมง 2019 เมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา กับสังกัด ฮอนด้า เอเชึย-ดรีม เรซซิ่ง วิท โชวะ ร่วมกับ ซัควาน ไซดี้ และ ฮาฟิซ อิซดิฮาห์​ก่อนจะช่วยทีมคว้ารองแชมป์ในรายการดังกล่าวมาครองได้อย่างยิ่งใหญ่

สมเกียรติ กับการแข่งขัน เซปัง 8 ชั่วโมง

สมเกียรติ เปิดเผยกับ Motorsportlives.com ที่ เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ว่า “ในปีแรกถือว่าเป็นปีที่ยากมากสำหรับผม เพราะเราไม่เคยมีประสบการณ์กับการแข่งขันในโมโตทูมาก่อนเลย แถมรถแข่งก็ขยับคลาสขึ้นมามีเครื่องยนต์ใหญ่กว่าเดิม ทำให้ต้องปรับตัวมาก หลายๆ สนามเราไม่เคยลงแข่ง จึงต้องใช้ความอดทนอย่างมากในการปรับตัวและทำความเข้าใจในตัวแทร็กและรถแข่งไปพร้อมๆ กัน”

“โดยรวมแล้วผมค่อนข้างพอใจกับผลงานที่ทำได้นะครับ แต่เรามีการบ้านให้ทำอีกเยอะ เพราะเป้าหมายของผมเองก็เปลี่ยนไป ไม่ใช่เพียงปีของการปรับตัวแล้ว ในปี 2020 ผมตั้งเป้าจะพัฒนาตัวเองขึ้นไปให้ถึงกลุ่มท็อปไฟว์ให้ได้ในทุกๆ สนาม และจะพยายามคว้าโพเดี้ยมให้ได้” สมเกียรติ เผยถึงเป้าหมายในปี 2020

“ตอนนี้ร่างกายผมกลับมาสมบูรณ์เต็มร้อยครับ หลังจากที่ผ่าตัดรักษาอาการอาร์มปั๊มไป ทำให้สามารถสู้กับรถในการควบคุมในสนามการณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้น ตอนนี้เรากลับมาดูว่าร่างกายเรายังขาดจุดไหน และต้องกลับมาออกกำลังกาย มาฟิตในแต่ละส่วนเพื่อให้สามารถยืนระยะในการแข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่องความเร็วต่อรอบที่จะพยายามให้มีความคงที่”

สมเกียรติ กล่าวถึงการทำงานกับทีมว่า “เรามีความคืบหน้าในการทำงานอย่างมาก ทุกๆ สนามผมสามารถใช้การซ้อมครั้งแรกในการเรียนรู้แทร็ก และปรับเซ็ตไปในตัวได้แล้ว ทุกๆ รันที่เราลงไปผมเองก็สามารถมีข้อมูลมาบอกทีมงานเพื่อหาเซ็ตอัพที่ดีขึ้น อีกเรื่องที่เราต้องพัฒนาคือการบริหารยางให้ดีสำหรับการแข่งขัน ซึ่งผมเองก็เจอแนวทางแล้ว นอกจากนี้ในปี 2020 เรายังมีการเปลี่ยนแปลงทีมช่างหลายตำแหน่ง ทั้งฝ่ายเดต้าสำหรับวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ของรถและการขับขี่ ฝ่ายดูและยาง และช่วงล่าง ซึ่งเราต้องมาเรียนรู้ซึ่งกันและกัน”

“น่าเสียดายที่ในการทดสอบหลังจบฤดูกาลถูกยกเลิกไป เพราะฝนตกหนักทั้ง 2 วัน ทำให้เราจะมีโปรแกรมการทดสอบอีกครั้งก็ในเดือนกุมภาพันธ์เลยครับ ที่ประเทศสเปน ดังนั้นช่วงเวลานี้ผมก็ใช้ในการรักษาสภาพความฟิต ทั้งเข้ายิม ปั่นจักรยาน รวมถึงการซ้อมรถแข่งโมโตครอว เพื่อให้ร่างกายจดจำการขี่รถปข่งอย่างต่อเนื่อง” สมเกียรติ กล่าว

ทั้งนี้ สมเกียรติ ยังกล่าวด้วยความมุ่งมั่นถึงความฝันสูงสุดในอาชีพนักบิดว่า “มาถึงตรงนี้ ผมคิดว่าได้เรียนรู้หลายอย่างจาก โมโตทู ฤดูกาลแรก และเชื่อมั่นว่าจะสามารถพัฒนาตัวเองได้อีกมาก เป้าหมายเราคือติดมท็อปไฟว์ให้ได้มากที่สุดในปี 2020 และฝันของผมคือ โมโตจีพี ฉะนั้นเพื่อทำฝันให้เป็นจขริง ผมต้องสร้างผลงานใน โมโตทู ให้โดดเด่นก่อน และสู้ต่อไปเพื่อพื้นที่ใน พรีเมียร์คลาส”