“เดอะสปาตัน” ฮอร์เก ลอเรนโซ แชมป์โลกโมโตจีพี 3 สมัย ลงเทสต์รถแข่งสเป็คล่าสุดของ ยามาฮ่า เป็นครั้งแรกที่ เซปัง หลังคัมแบ็กเป็นนักบิดทดสอบ พร้อมกับเผยว่า “M1 ยังคงเข้าทางกับสไตล์การบิดของตนเสมอ”

ลอเรนโซ คว้าแชมป์โลกพรีเมียร์คลาส 3 สมัย ร่วมกับทีมโรงงานยามาฮ่า ก่อนที่จะตัดสินใจย้ายออกจากทีมเพื่อหาความท้าทายกับ ดูคาติ และ ฮอนด้า

อย่างไรก็ดี ลอเรนโซ มาประสบปัญหาอย่างหนักในการปรับตัวกับรถแข่งฮอนด้า RC213V กอปรกับปัญหาอาการบาดเจ็บจากการล้มหนักๆ 2-3 ครั้งในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้นักบิดสแปนิชไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งได้เลย ก่อนเจ้าตัวจะตัดวินใจรีไทร์หลังจบโมโตจีพีฤดูกาลที่ผ่านมา

จากนั้น ลอเรนโซ ได้รับสัญญาจากทีมโรงงานยามาฮ่า เพื่อคัมแบ็กสู่ทีมในการเป็นนักบิดทดสอบ โดยมีเป้าหมายให้ช่วยพัฒนารถแข่ง M1 ร่วมกับวิศวกร และล่าสุดนักบิดสแปนิชที่คัมแบ็กสู่แทร็กกับ M1 อีกครั้ง ด้วยการลงทดสอบในช่วง เชคดาวน์ ที่ เซปัง

“มันคือวันที่ผมรอคอยมายาวนาน” ลอเรนโซ เผยผ่านโซเชียลมีเดีย

“ผมรู้สึกว่าประหม่านิดหน่อยในการทำความเข้าใจสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถแข่ที่เปลี่ยนไปมากในเวลา 3 ปี แม้ว่าจะเสียจุดแข็งไปบ้าง แต่ผมเคยเจอมาแล้ว ดังนั้น รถแข่ง M1 ยังคงคาแร็กเตอร์เดิมของมันไว้”

“มันมีจุดแข็งมากมาย และจุดอ่อนบางอย่างที่เราได้วิเคราะห์กัน เพื่อปรับปรุงให้กับพวกเขาในอนาคต”

“ทันที่ที่ผมเห็นรถแข่ง M1 มันยังคงทำให้ผมลุ่มหลงไปกับเครื่องยนต์ที่สมูธ ไม่ต้องใช้ร่างกายหนักมากเกินไปสำหรับนักบิด สำหรับสไตลด์การบิดของผมแล้วมันเหมาเจาะจริงๆ”

ลอเรนโซ จบวันแรกในการคัมแบ็กทดสอบรถแข่ง M1 ไปทั้งสิ้น 46 รอบสนาม ทำเวลาตามหลังนักบิดที่เร็วที่สุดอย่าง โปล เอสปาร์กาโร จาก เคทีเอ็ม อยู่ 1 วินาที

“นี่คือการกลับมาบิดรถแข่งครั้งแรกในรอบ 3 เดือน และกับรถแข่ง ยามาฮ่า ในรอบ 3 ปี มันคือช่วงเวลาที่ยาวนานสุดๆ ดังนั้นผมจึงเริ่มต้นแบบไม่รีบร้อนนัก แต่ก็ปรับปรุงเวลาต่อรอบในทุกๆ รันที่ลงไปทดสอบ” ลอเรนโซ กล่าวเพิ่มเติม

“ในช่วงท้ายของวัน เราตามหลังอันดับ 1 อยู่แค่หนึ่งวินาที เป็นเวลาที่ไม่เลวสำหรับวันแรก และการลงเทสต์เพียงไม่กี่รอบ”

“ผมแฮปปี้นะ ทีมยังคงสมบูรณ์แบบ M1 ยังคงเป็นรถแข่งที่อันตรายกับคู่แข่งเสมอ และผมมั่นใจสุดๆ ว่าจะสามารถทำงานกับทุกๆ คนได้อย่างลงตัว”