อันเดรีย อิอันโนเน นักบิดอิตาเลียนสุดเศร้า เผย “เหมือนโดนกรีดหัวใจ” หลังถูกตัดสินโทษแบน 4 ปี จากการตรวจพบสารกระตุ้น (สเตียรอยด์) ชี้ไม่ยอมแพ้ขอต่อสู้เพื่อความ “ยุติธรรม”

อิอันโนเน ถูกตรวจพบสารต้องห้ามชนิด สเตียรอยด์ หลังจบการแข่งขัน มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ เมื่อปีที่ผ่านมา หลังการสืบสวนสอบสวนหลายครั้ง ท้ายที่สุด ศาลของเอฟไอเอ็ม ได้สั่งลงโทษนักบิดอิตาเลียนด้วยการแบน ห้ามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมใดๆ ของการแข่งขันของเอฟไอเอ็ม รวมถึงการทดสอบนานถึง 18 เดือน 

นอกจากนี้ ยังโดนสั่งลงโทษ “ดิสควอลิฟาย” ย้อนหลังในการแข่งขันรายการ มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ และ บาเลนเซีย กรังด์ปรีซ์ ในปีที่ผ่านมาด้วย ทว่า อิอันโนเน เดินหน้าอย่างเต็มที่ในการต่อสู้กับคำตัดสินดังกล่าว โดยยกหน้าที่ให้กับทนายส่วนตัวเพื่อทำการอุทธรณ์ต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่ามีนักกีฬาที่เคยต้องโดนโทษกรณีนี้ จากความไม่ตั้งใจ และรอดพ้นจากการลงโทษ

ทว่าล่าสุด WADA : World Anti-Doping Agency ซึ่งเป็นผู้ยื่นฟ้องต่อศาลนั้น ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอนุญาโตตุลาการ (The Court of Arbitration for Sport :CAS)ให้มีการขยายโทษแบนของนักบิดอิตาเลียนเพิ่มไปอีก 4 ปี

อินอันโนเน พยายามอย่างหนักเพื่อต่อสู้คดี เพื่อให้คำตัดสินเป็นโมฆะ ขณะที่ WADA ได้เรียกร้องให้มีการตัดสินคดีใหม่ โดยการเพิ่มระยะเวลาลงโทษแบนเป็น 4 ปี กระบวนการดังกล่าวได้รับการรวบรวมข้อมูล และจะถูกส่งต่อไปยังคณะอนุญาโตตุลาการคนเดิม เพื่อพิจารณาคดีอีกครั้ง

ล่าสุดในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2020 ศาลอนุญาโตตุลาการได้ตัดสินอย่างเป็นทางการให้ อิอันโนเน โดนโทษแบนห้ามยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมใดๆ ของ เอฟไอเอ็ม เป็นเวลา 4 ปี เริ่มจากวันที่ 17 ธันวาคม 2019 ที่ผ่านมา

อิอันโนเน เผยเศร้าๆ ว่า “การลงโทษนี้มันไม่ยุติธรรม” และสิ่งที่เขาเจอมันไม่ถูกต้องเอาเสียเลย

ในการโพสต์ผ่าน อินสตาแกรม,​อิอันโนเน ระบุว่า “วันนี้ ผมได้รับการตัดสินที่เลวร้าย ซึ่งผมไม่เคยนึกมาก่อนว่าจะเจอ”

“พวกเขากรีดหัวใจผม พรากผมจะสิ่งที่รักที่สุด มันไม่มีเหตุผลเลยในข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นจริง”

“สำหรับเรื่องนี้ทั้งเวลาและสถานที่มันควรมีจุดของมัน เพราะผมจะไม่ยอมแพ้แน่นอน”

“ผมรู้ว่ากำลังเผชิญหน้ากับอะไร แต่ผมก็หวังนะครับว่าจะต่อสู้อย่างตรงไปตรงมา และยืนหยัดกับความยุติธรรม”