อเล็กซ์ มาร์เกซ รุุกกี้ชาวสแปนิชจาก เรปโซล ฮอนด้า ยอมรับว่า “ข้อมือซ้าย” ไร้การตอบสนองในการแข่งขัน บาเลนเซีย กรังด์ปรีซ์ หลังพลาดล้มหนักในรอบควอลิฟาย แต่ “ฝืนบิด” ให้จบเรซเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

อเล็กซ์ มาร์เกซ ถูกดีดหลุดออกจากรถ RC213 ที่การควอลิฟายรอบ Q1 ที่โค้ง 11 ของ เซอร์กิต ริคาร์โด ตอร์โม ก่อนจะกระแทกลงกับพื้นด้วยแรงจีถึง 23.6g ที่หลังของเขา

“มาร์เกซผู้น้อง” ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อเช็กร่างกายโดยละเอียด พบว่ามีอาการ “บวมช้ำ” ของไขกระดูกที่ข้อมือซ้าย แต่นักบิดสแปนิชยังคงตัดสินใจลงแข่งขันในวันอาทิตย์

อย่างไรก็ดี หลังผ่านการแข่งขันรอบที่ 8 อเล็กซ์ มาร์เกซ เผยว่า “ข้อมือซ้าย” ของเขา “เหมือนหลับไปดื้อๆ” (ไม่ตอบสนอง) และเขาก็ทำได้ดีที่สุดเพียงจบเรซในอันดับ 16

“มันค่อนข้างยากลำบากมาตั้งแต่การ วอร์ม-อัพ ซึ่งเป็นผลจากการล้มในวันเสาร์” มาร์เกซ กล่าว

“ดังนั้น สิ่งสำคัญในตอนนั้นคือการบิดให้จบการแข่งขัน เพื่อสร้างความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง เพราะหลังจากที่ล้มติดต่อกัน 3 สนาม หลายๆ อย่างก็ไม่ง่ายอีกต่อไป”

“บางทีการเลือกใช้ยางฮาร์ดในเรซนี้อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก ผมคิดว่า มีเดียม น่าจะเหมาะที่สุด”

“แต่หลังจากนั้น 8 รอบ มือซ้ายของผมเหมือนหลับไหลไปเลย มันไม่ตอบสนอง ชาไปหมด ดังนั้นจึงยากมากที่จะบิดให้จบเรซ”

“เราไม่สามารถเก็บแต้มได้ แต่ผมคิดว่าเป้าหมายสำคัญคือการพารถแข่งกลับสู่พิตแบบสมบูรณ์เต็มร้อย และพยายามกลับมาหาจังหวะที่ดีอีกครั้ง เมื่อเดินทางถึง ปอร์ติเมา”